ขอเชิญผู้มีจิตอันเป็นกุศล ร่วมเลี้ยงอาหารผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ (คนเร่ร่อน) บริเวณตรอกสาเก ใกล้ท้องสนามหลวง มื้อละเพียง 3,000 บาท
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะประธานมูลนิธิอิสรชน (www.issarachon.org) ขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตอันเป็นกุศล ร่วมเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ (คนเร่ร่อน) บริเวณตรอกสาเก ใกล้ท้องสนามหลวง เพื่อให้พวกเขาได้มีอาหารที่ถูกอนามัยรับประทานสักมื้อหนึ่ง โดยมูลนิธิจัดงานเลี้ยงนี้ในทุกวันอังคาร เวลา 18:00 น.
ผู้มีจิตอันเป็นกุศลสามารถร่วมเป็นเจ้าภาพครั้งละประมาณ 3,000 บาท เป็นค่าอาหาร ค่าจาน ช้อน และอื่นๆ หรือท่านอาจบริจาคเพิ่มเติมเพื่อเป็นทุนในการทำความดีร่วมกับมูลนิธิอิสรชนก็ย่อมทำได้เช่นกัน โดยเฉพาะท่านที่ฝันร้าย (Nightmare) แทนที่จะไปทำบุญกับนักบวชที่ยืนอยู่หน้าตลาด (ซึ่งไม่ทราบว่าพระจริงหรือปลอม) หรือไปทำสังฆทาน การมาเลี้ยงอาหารนี้ น่าจะเป็นกุศลไม่น้อย
บางท่านคิดว่าการเลี้ยงอาหารนี้เป็นการช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งก็จริง แต่พวกเขาก็ควรมีโอกาสรับประทานอาหารที่ถูกอนามัยบ้าง แต่การเลี้ยงนี้คงไม่ทำให้พวกเขา "งอมืองอเท้า" ไม่ทำมาหากิน รอรับแต่อาหาร เพราะมูลนิธิเลี้ยงเพียงสัปดาห์ละ 1 มื้อเท่านั้น ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะยังต้องออกไปทำมาหากินตามปกติ เช่น ไปเก็บขยะ หรือรับจ้างทั่วไป เพื่อหาเงินมาประทังชีวิตอิสระตามลำพัง
คนเร่ร่อนกับขอทานไม่เหมือนกัน คนเร่ร่อน เป็นผู้ที่อยู่ตามชายขอบของสังคม ไม่อาจอยู่ในสังคมปกติได้ ปกติแล้วคงไม่มีใครคิดจะนอนข้างถนน แต่เนื่องจากความจำเป็น ความทุกข์ใจ จนบางคนเลยกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวชไป พวกเขาประทังชีวิตด้วยอาหารจากกองขยะบ้าง หรือรับจ้างเล็กน้อยเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพบ้าง บ้างก็ขายบริการทางเพศ คนเหล่านี้รู้สึกตนเป็นปมด้อย ไม่ค่อยกล้าสู้หน้าคน โอกาสที่จะไปทำร้ายใครในสังคมตามท้องเรื่องในละครน้ำเน่าจึงมีไม่มากนัก
ในทางตรงกันข้ามขอทานเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย และจะเห็นว่ามีขอทานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามามาก พวกนี้ทมาหากินด้วยการใช้ความน่าสงสาร ทำให้คนใจอ่อนให้เงินทอง ขอทานคนหนึ่งๆ มีรายได้ไม่ต่กว่า 500 บาท ขอได้ทุกวัน บางคนมีรายได้มากกว่านี้อีก ขอทานบางคนสามารถบริจาคได้ปีละนับล้านบาท เช่น กรณีนายเอี่ยม คำภิรานนท์ หรือ ลุงเอี่ยม ขอทานใจบุญที่. . . นั่งขอทานอยู่ด้านหลังพระอุโบสถวัดไร่ขิง. . .นครปฐม บริจาคเงินซื้อดอกบัวถวายหลวงพ่อวัดไร่ขิง ในงานประจำปี ปีละ 1-2 ล้านบาท. . ." (https://bit.ly/2EnTqyL)
แต่คนเร่ร่อนมักถูกเมิน ด้วยนึกว่าเป็นคนที่งอมืองอเท้า เงินบริจาคช่วยคนเร่ร่อนซึ่งมีทั้งเด็กและคนชรา ยังได้รับน้อยกว่าเงินบริจาคช่วยหมาแมว เพราะประชาชนหลายส่วนยังไม่ทราบว่าคนเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือเพื่อให้สามารถกลับเข้าสู่สังคมตามปกติสุข และร่วมสร้างสรรค์สังคมได้ จึงปล่อยให้คนเหล่านี้อยู่ตามชายขอบเรื่อยไป และทำให้คนเหล่านี้มีอายุขัยสั้นกว่าประชาชนทั่วไปที่มีที่พักอาศัยตามอัตภาพ
มาช่วยกันดูแลคนเร่ร่อนเพื่อสังคมไทยอยู่รอดกันเถอะ