ถ้าเงินดาวน์ 10-20% ยังหาไม่ได้ แสดงว่าระบบที่อยู่อาศัยไทยเปราะบางมาก มีโอกาสที่จะแตกได้ ต้องระวัง
จากการที่มีข่าวที่บริษัทพัฒนาที่ดินต่าง ๆ พยายามเร่งระบายสินค้าที่อยู่อาศัยในตลาดในแง่หนึ่ง ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการจัดการสินค้าคงเหลือให้หมดไปก่อนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ เพราะที่ผ่านมา บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ ต่างเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงปี 2560-2561ทำให้มีปริมาณสินค้าคงเหลือ เหลืออยู่เป็น "ดินพอกหางหมู" เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เป็นจุดอ่อนของบริษัทพัฒนาที่ดินในขณะนี้ ดังนั้นการระบายสินค้าจึงเป็นเสมือนการ "กวาดบ้าน" ตนเอง
อย่างไรก็ตามการที่ผู้ซื้อบ้านในขณะนี้ไม่สามารถหาเงินดาวน์ 10-20% มาวางเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยก็แสดงว่าผู้ซื้อบ้านขาดสภาพคล่องเป็นอย่างยิ่ง ต่างมุ่งหวังที่จะรับเงินกู้ 100% ซึ่งน่าจะส่งผลร้ายต่อระบบสถาบันการเงินในอนาคตทำให้สถาบันการเงินอาจประสบปัญหาหนี้เสียเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา การพยายามที่จะอำนวยสินเชื่อ 100% จึงไม่น่าจะส่งผลดีในระยะยาวต่อระบบที่อยู่อาศัย
การที่บริษัทมหาชนหลายแห่งต้องออกหุ้นกู้ในอัตราดอกเบี้ย 4-6.5% ก็เท่ากับแทบไม่แตกต่างจากการกู้เงินจากสถาบันการเงิน ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทมหาชนเหล่านี้ลดต่ำลง และทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระเงินหุ้นกู้ได้ในอนาคต
การขาดสภาพคล่องทางการเงินของทั้งผู้ซื้อบ้าน ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินบางส่วนและการขนาดวินัยในการอำนวยสินเชื่อของสถาบันการเงิน จึงอาจถือเป็น "ระเบิดเวลา" ของตลาดที่อยู่อาศัยในอนาคต