ในเดือนมีนาคม อสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีการเปิดตัวกันคึกคักก่อนสิ้นไตรมาส 1/2562 โดยในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 45 โครงการ เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 17 โครงการ จึงมีจำนวนหน่วยขายและมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นตาม โดยลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัย 45 โครงการ และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ อีก 1 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 10,854 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 45,412 ล้านบาท โดยราคาเฉลี่ยหน่วยละ 4.184 ล้านบาท
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ยังคงเป็นอาคารชุด โดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 6,249 หน่วย (57.6%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 2,044 หน่วย (18.8%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 1,775 หน่วย (16.4%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจำนวนหน่วยขายของที่อยู่อาศัยหลัก ซึ่งได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุด กับเดือนที่ผ่านมา จะพบว่าจำนวนหน่วยขายของทั้ง 3 ประเภทเพิ่มขึ้น โดยอาคารชุดเพิ่มขึ้นจำนวน 485 หน่วย (8%) บ้านเดี่ยวมีจำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้น 1,042 หน่วย (142%) ส่วนทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้น 977 หน่วย (95.2%) ซึ่งทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ สำหรับอาคารชุดจะตั้งอยู่ในบริเวณย่านสุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัย อ่อนนุช รามคำแหง และแจ้งวัฒนะ เป็นต้น ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเปิดใหม่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เขตติดต่อเมือง เช่น บริเวณย่านดอนเมือง สรงประภา กรุงเทพกรีฑา เพชรเกษม ราชพฤกษ์ บางนา บางกรวย-ไทรน้อย เป็นต้น
ในภาพรวมโครงการที่เปิดขายใหม่ในเดือนมีนาคม 2562 นี้ ดร.โสภณ กล่าวว่ามีจำนวนหน่วยขาย มูลค่าโครงการ และราคาขายเฉลี่ยต่อยูนิตเพิ่มขึ้น ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้น (ประมาณ 42%) เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายที่มีราคาขายตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 5,238 หน่วย หรือประมาณ 48% ของหน่วยขายทั้งตลาด จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมของเดือนนี้เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนก่อน ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 4.184 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 2.949 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางถึงค่อนข้างสูงเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น
อัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 17% ซึ่งจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 30% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการได้สูงสุด และมีจำนวนหน่วยขายเป็นส่วนใหญ่ของตลาดคือทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 750 หน่วย ขายได้แล้ว 235 หน่วย (31%) รองลงคือ อาคารชุดระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 1,865 หน่วย ขายได้แล้ว 436 หน่วย (23%) และอันดับ 3 คืออาคารชุดระดับราคา 5-10 ล้านบาท จำนวน 1,307 หน่วย ขายได้แล้ว 307 หน่วย (23%)
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 9 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้จำกัด (มหาชน) บริษัท ออลล์อินสไปร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
แผนที่โครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2562
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th)