ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

            เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ มีเหตุการณ์ก่อการร้ายบริเวณถนนสุขุมวิท 71 อย่างแน่ชัดทั้งนี้เพราะสามารถจับตัวคนร้ายที่บังเอิญทำระเบิดใส่ขาตนเองขาดได้ การก่อการร้ายจะส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจของชาติและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
            การก่อการร้ายจะทำให้นักท่องเที่ยวลดลง ลำพังน้ำท่วมก็ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงพอสมควร เช่นตามสถิติล่าสุดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพบว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เดินทางเข้าประเทศไทย 549,798 คนในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2555 ซึ่งต่ำกว่าเดือนเดียวกันในปี 2553 ซึ่งเดินทางมาถึง 722,393 คน ซึ่งเท่ากับลดลงถึง 24% แต่หากมีกรณีการก่อการร้ายที่รุนจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและมูลค่าอสังหาริมทรัพย์จากการท่องเที่ยวมากกว่าน้ำท่วมเสียอีก
            กรณีเหตุการณ์ก่อการร้ายขั้นร้ายแรงเกิดขึ้นในบาหลีเมื่อปี 2545 และปี 2548 ถึงสองครั้ง ทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายนับร้อยคน และทำให้นักท่องเที่ยวหายไปประมาณ 30% โดยเฉพาะในช่วงเดือนแรก ๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย  อย่างไรก็ตามนับแต่ปี 2550 เป็นต้นมา บาหลีกลับเติบโตขนานใหญ่ และใกล้เป็นคู่แข่งของเกาะภูเก็ตของไทยในระยะหลังนี้

เหตุการณ์การก่อการร้ายที่มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 100 คนขึ้นไปทั่วโลก นับถึงมกราคม 2555

ที่มา: http://www.johnstonsarchive.net/terrorism/globalterrorism1.html

            สำหรับพื้นที่เสี่ยงในเขตกรุงเทพมหานคร ได้แก่ พื้นที่ศูนย์การค้าและแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ แหล่งรวมชาวต่างประเทศ เช่น ถนนข้าวสาร สุขุมวิท ธนิยะ รวมทั้งบริเวณใกล้สถานทูตสำคัญ ๆ เพราะครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2537 ที่มีผู้ก่อการร้ายรถบรรทุกน้ำซึ่งมีระเบิดซีโฟร์ขนาดมหึมาซุกซ่อนอยู่ภายในเพื่อพุ่งชนอาคารสถานทูตอิสราเอล ทว่ารถบรรทุกเกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลมเสียก่อน คนขับจึงจอดรถทิ้งไว้แล้วหลบหนีไป จนตำรวจพบว่ารถที่ยึดได้ที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินีนั้นซุกระเบิดอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับสถานทูตที่มีโอกาสเสี่ยงเพราะเป็นประเทศที่อาจเป็นเป้าหมายการก่อการร้าย ได้แก่
            สถานทูตจีนประจำประเทศไทย 57 ถ.รัชดาภิเษก
สถานทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ชั้น 23,24 อาคารแสงทองธานี 82 ถ.สาทรเหนือ
            สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย 177 ถ.วิทยุ ปทุมวัน
            สถานทูตปากีสถานประจำประเทศไทย 31 ซอยนานาเหนือ 3 สุขุมวิท
            สถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย 35 ถ.เจริญกรุง 36
            สถานทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย 9 ถ.สาทรใต้
            สถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย 18 ซ.สันติภาพ บางรัก
            สถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย 95 ถ.วิทยุ รวมทั้งบ้านพักทูต ถ.ราชดำริ และถนนวิทยุ
            สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย 37 สาทรใต้
            สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย 1031 ถ.วิทยุ
            สถานทูตอิตาลีประจำประเทศไทย 399 ถ.นางลิ้นจี่ ทุ่งมหาเมฆ
            สถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ณ อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ 2 ชั้น 25 ถ.รัชดาภิเษก คลองเตย
            สถานทูตอียิปต์ประจำประเทศไทย ชั้น 42 อาคารลาสโคลินัส 6 ถ.สุขุมวิท 21           

อย่างไรก็ตามการนี้เป็นเพียงการคาดการณ์ในฐานะผู้สังเกตการเท่านั้น โดยจะสังเกตได้ว่าสถานทูตเหล่านี้ล้วนอยู่ใจกลางเมืองโดยเฉพาะย่านธุรกิจสำคัญ ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายจะส่งผลเสียหายอย่างยิ่ง การป้องกันเหตุร้ายจึงเป็นสิ่งที่สมควรดำเนินการอย่างเข้มงวด เช่น การตรวจสิ่งของก่อนเข้าห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ต่างๆ ส่วนราชการ โดยอาจใช้ทั้งเครื่องมือและสุนัขตำรวจ เป็นต้น (ภาพต่อไปนี้ที่กรุงมะนิลา)

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน