บทความนี้มาจากเว็บไซต์ balanceenergythai.com (https://bit.ly/2NwomU0) AREA แถลงเห็นว่าเป็นประโยชน์จึงได้คัดลอกมาลงไว้ในที่นี้
จากข่าวที่จีนจะยกเลิก โรงไฟฟ้าถ่านหินจำนวน 103 โรงนั้น ไม่ใช่แค่ประเด็นปัญหาด้านมลพิษเท่านั้น สาเหตุจริงๆแล้ว คือจีนเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก Co2 มากที่สุดในโลก จึงควรเป็นประเทศที่ต้อง “ลดการปล่อยมากที่สุด”
จีนวางแผนว่าเศรษฐกิจจะโต จึงวางแผนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเยอะมาก แต่ !! เอาเข้าจริงเศรษฐกิจโลกไม่โตตามคาด ทำให้ปัจจุบันจีนมีกำลังสำรองสูงถึงกว่า 60% ซึ่งของประเทศไทยกำลังผลิตสำรองจะอยู่ที่ 15% จากเดิมที่พยายามปรับปรุงโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีเก่าให้ดีขึ้น ถ้าปรับไม่ได้ก็ใช้วิธีเลิกผลิต จีนจึงถือเอาเอาวิกฤตินี้เป็นโอกาสหยุดสร้าง เลยเป็นที่มาที่ไปว่าทำไมจีนยกเลิกถ่านหิน 103 โรง
โดยโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ถูกยกเลิก เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อยู่ในเขตทีมีโรงไฟฟ้าเกินกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้ามากๆ (มีเยอะเกินไปนี่เอง) จนถึงตรงนี้ขืนสร้างไปก็มีกำลังผลิตไฟฟ้ามากเกินความต้องการอยู่แล้ว แถมถ้าสร้างต่อไปก็ต้นทุนเพิ่มหยุดรอดีกว่า
รออะไร???! ยังไงจีนก็ไม่กล้าลดลงจนกำลังผลิต firm ต่ำกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้า ไม่งั้นโอกาสไฟฟ้าดับสูงเหมือน South Australia
จีนรอเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่ firm และถูก ตอนนี้จีนเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนแบบ nonfirm เข้ามาก่อน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการลดปัญหาโลกร้อน เวลาที่ใช้พลังงานทดแทนได้ก็ใช้ ใช้ไม่ได้ก็ใช้ firm จากเชื้อเพลิง fossil ที่ยังมีมากพอ ในกรณีที่พลังงานทดแทนวูบหายจากระบบ
เข้าใจตรงกันเนอะ !!