พล.ประยุทธ์อาจทำรัฐประหารอีก ถ้ามีรัฐประหารเกิดขึ้น จะทำให้ราคาบ้านและที่ดินในกรุงเทพมหานครถูกลงหรือไม่
มีข่าวว่า “บิ๊กตู่ ขู่ อย่าให้ผมแก้ปัญหาแบบเดิม ที่ทุกคนไม่ต้องการ ถ้ายังทะเลาะเรื่องเก้าอี้ครม.” (https://bit.ly/2LxzNIt) โดยมีรายละเอียดว่า “โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไป เพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในฐานะรัฐบาลของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งจะถือเป็นการเริ่มต้นปฏิรูปทางการเมืองของรัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อมิให้การดำเนินการทางการเมืองกลับไปเป็นปัญหาเช่นเดิม จนต้องเกิดการแก้ไขปัญหาแบบเดิมๆ ที่ทุกคนไม่ต้องการขึ้นมาอีก”
ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่า หากบิ๊กตู่ทำรัฐประหารยึดอำนาจอีกครั้งหนึ่ง จะทำให้ราคาบ้านและที่ดินตกต่ำลงหรือไม่ ข้อนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ให้ข้อคิดว่า ราคาบ้านและที่ดินคงไม่ตกต่ำลงเพราะรัฐประหารอย่างแน่นอน โดยจะเห็นได้ว่า
1. ในสมัยที่มีรัฐประหารปี 2549 และปี 2557 ราคาที่ดินก็ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (https://bit.ly/2BWYvfW)
2. ราคาที่ดินยังอาจเพิ่มขึ้นมากกว่านี้เพราะรถไฟฟ้าทยอยจะแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้
3. แม้แต่ในปี 2558 ที่มีระเบิดครั้งใหญ่ในกรุงเทพมหานครบริเวณศาลพระพรหม ก็ไม่ทำให้ราคาทรัพย์สินตกต่ำลงแต่อย่างใด (https://bit.ly/1jK21hP) ระเบิดที่ทำให้นักท่องเที่ยวลดอาจส่งผลต่อมูลค่าทรัพย์สิน แต่กิจกรรทางเศรษฐกิจหลักของกรุงเทพมหานครไม่ไช่การท่องเที่ยว
ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าหากมีรัฐประการเกิดขึ้นอีก แต่ไม่ได้ส่งผลต่อรากฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ มูลค่าทรัพย์สินก็จะไม่ลดลง แต่หากเศรษฐกิจตกต่ำลงเพราะระบบสถาบันการเงินมีปัญหา หรือการลดค่าเงินกะทันหัน ฯลฯ ก็อาจทำให้ราคาทรัพย์สินตกต่ำลงได้เช่นด้วย ดังนั้นหากบิ๊กตู่หรือทหารกลุ่มใดจะทำรัฐประหารอีก ก็คงไม่ได้ส่งผลลบต่อราคาที่ดิน
แต่หากมีรัฐประหารบ่อยๆ ก็อาจทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ และอาจทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก และเมื่อนั้นจึงจะทำให้เกิดวิกฤติจนราคาที่ดินลดลงนั่นเอง