การขายชาติในทุกวันนี้
  AREA แถลง ฉบับที่ 359/2562: วันอังคารที่ 09 กรกฎาคม 2562

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            การขายชาติในทุกวันนี้มีอย่างโจ๋งครึ่ม ผิดหรือไม่ก็ให้นึกเอาว่า ถ้าเป็นทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ทำ จะผิดหรือจะถูกกันแน่

            รูปแบบการขายชาติได้แก่:

            1. การให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี กรณีเกิดขึ้นกับจีนที่ถูกจักรวรรดินิยมตะวันตกรุกรานและแพ้สงคราม แต่ไทยไม่ได้แพ้สงคราม กลับให้ต่างชาติย่ำยีเช่นนี้ ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษถึงขนาดนี้

            2. การให้นักวิชาชีพต่างชาติมาประกอบอาชีพโดยไม่ต้องขึ้นกับสภาวิชาชีพไทย แม้แต่นายหน้าสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ยังไม่ยอมให้ต่างชาติเข้าไปหากินเลย ถ้าขืนเข้าไปโดยไม่มีใบอนุญาตจากท้องถิ่น มีโทษทั้งจำทั้งปรับในสิงคโปร์ แต่ไทย “ปล่อยผี”

            3. ต่างชาติแย่งบ้านจากคนไทย ทำให้คนไทยต้องซื้อบ้านในราคาแพงขึ้น เพราะการไม่จำกัดราคาบ้านที่จะซื้อ ในต่างประเทศมีการกำหนดราคาขั้นต่ำที่จะซื้อได้ ไม่ใช่ให้ต่างชาติซื้อได้ทุกระดับราคา

            4. ไม่มีการกำหนดอัตราภาษีที่ต่างชาติต้องจ่าย ในขณะที่สิงคโปร์ กำหนดไว้ถึง 20% ฮ่องกง  30%

            5. ไต้หวันจำกัดต่างชาติโดยให้อยู่ในประเทศได้ไม่เกิน 4 เดือน และต้องห้ามขายต่อภายใน 3 ปี เพื่อลดการเก็งกำไร

            6. ออสเตรเลียจำกัดไม่ให้ต่างชาติซื้อบ้านมือสอง นิวซีแลนด์ห้ามต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์เลยเพราะกลัวถูกครองงำตลาด

            7. ชนชั้นนำไทยไม่ต้องการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและภาษีมรดก จึงกำหนดอัตราภาษีไว้ต่ำมาก เท่ากับขายชาติ ทำให้ต่างชาติไม่ต้องเสียภาษีไปด้วย ในขณะที่คนไทยไปซื้อบ้านในประเทศตะวันตก ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประมาณ 1-2% ของมูลค่าตลาด และยังต้องเสียภาษีมรดก

            8. การให้ต่างชาติสามารถใช้เงินตราของตนเองในประเทศไทย คล้ายเขตเช่าของต่างชาติในจีนในอดีต

            ถึงแม้เราให้สิทธิพิเศษมากมายแก่ต่างชาติ แต่ก็ดึงดูดให้ต่างชาติมาลงทุนได้ไม่มาก  เท่ากับขนาดลงทุนขายชาติแล้ว ก็ไม่ได้ผล แต่จะกลับส่งผลร้ายต่อชาติในระยะยาว  ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า “(เวียดนาม) มียอดการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ทั้งคำขอและลงทุนจริง ช่วง 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2562) ขยายตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยประเทศที่เข้าลงทุนหลัก ประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ขณะที่การส่งออกก็ขยายตัวมากกว่า 30-40% ขณะที่ประเทศไทยพบว่าต่างชาติยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนเป็นหลักแต่ยังไม่มีการลงทุนจริงมากนัก. . .สถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนการลงทุนจะมุ่งไปเวียดนามแทนไทย” (https://bit.ly/2L9NA8R)

            ต่อไปนี้เป็นคลิป FB Live ของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ว่าด้วยการขายชาติในทุกวันนี้  ท่านผู้สนใจสามารถดูได้ในที่นี้:

 

การขายชาติในทุกวันนี้ https://www.facebook.com/dr.sopon4/videos/2404165063183793
อ่าน 3,390 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved