ตามที่มีข่าวอภิมหาเศรษฐีบริจาคเงินทีเดียวนับร้อยล้าน (https://bit.ly/2JmNLKt) เราคงคิดอนุโมทนาสาธุที่ท่านทำดี แต่ในอีกแง่หนึ่งก็อาจคิดอิจฉาปนสมเพทตนเองที่ไม่สามารถบริจาคเงินได้มากปานนั้น อย่างไรก็ตามแท้จริงแล้ว การบริจาคมากมายเพียงนั้น ยังถือว่าน้อยกว่าชาวบ้านปุถุชนคนหนึ่ง ท่านเชื่อหรือไม่
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2561 มีข่าวการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีไทย "10 ลำดับแรกฟอร์บส์เผย 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ปี 61" (http://bit.ly/2I8M9mb) ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) มองต่างมุมว่า 10 อันดับเศรษฐีไทยบริจาคโดยสัดส่วนของรายได้น้อยกว่าชาวบ้านคนหนึ่งเสียอีก
ตามข่าวกล่าวว่า "ฟอร์บส์" นิตยสารด้านธุรกิจชื่อดังของสหรัฐ ได้จัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปี 2561 โดยมีปีนี้มหาเศรษฐีไทยติดอันดับ 30 คน โดย 10 คนแรกมีดังนี้:
1. เจริญ สิริวัฒนภักดี (เบียร์ช้าง) มีทรัพย์สิน 17,900 ล้านดอลลาร์ อันดับ 65 ของโลก
2. ธนินท์ เจียรวนนท์ (ซีพี/ธุรกิจหลากหลาย) มีทรัพย์สิน 14,900 ล้านดอลลาร์ อันดับ 95ของโลก
3. วิชัย ศรีวัฒนประภา (คิง เพาเวอร์) มีทรัพย์สิน 5,000 ล้านดอลลาร์ อันดับ 388 ของโลก
4. สุเมธ เจียรวนนท์ (ธุรกิจหลากหลาย) มีทรัพย์สิน 4,200 ล้านดอลาร์ อันดับ 514 ของโลก
5. จรัญ เจียรวนนท์ (ธุรกิจหลากหลาย) มีทรัพย์สิน 4,100 ล้านดอลลาร์ อันดับ 527 ของโลก
6. มนตรี เจียรวนนท์ (ธุรกิจหลากหลาย) มีทรัพย์สิน 4,100 ล้านดอลลาร์ อันดับ 527 ของโลก
7. สารัชถ์ รัตนาวดี (ธุรกิจพลังงาน) มีทรัพย์สิน 3,600 ล้านดอลลาร์ อันดับ 629 ของโลก
8. สมโภชน์ อาหุนัย (ธุรกิจพลังงาน) มีทรัพย์สิน 3,400 ล้านดอลลาร์ อันดับ 679 ของโลก
9. วาณิช ไชยวรรณ (ไทยประกันชีวิต) มีทรัพย์สิน 3,300 ล้านดอลลาร์ อันดับ 703 ของโลก
10. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ (ธุรกิจโรงพยาบาล) มีทรัพย์สิน 3,000 ล้านดอลลาร์ อันดับ 791 ของโลก
ดร.โสภณ ให้ข้อคิดเห็นว่า สัดส่วนเงินบริจาคเพื่อสังคมต่อรายได้ของอภิมหาเศรษฐีแต่ละคนของไทยอาจต่ำกว่าชาวบ้านคนหนึ่งด้วยซ้ำไป จากการศึกษาของ ดร.โสภณ พบว่า "จากการวิเคราะห์ข้อมูลของทางสำนักงานสถิติแห่งชาติ ครัวเรือนหนึ่ง ๆ ของไทยใช้จ่ายเงินเพื่อการบริจาคเป็นเงินเดือนละ 422 บาท หรือ 2.69% ของรายได้ต่อเดือนของครัวเรือน" (http://bit.ly/2D3xuF7)
ที่นี้มาพิจารณาดูถึงอภิมหาเศรษฐีไทย หากสมมติให้แต่ละท่านหารายได้เป็นเงินประมาณ 5% ของมูลค่าทรัยพ์สินเท่านั้น และให้แต่ละคนบริจาคเงิน 2.69% ของรายได้เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป จะพบว่า คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่า 17,900 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือคิดเป็นเงินไทย 561,304 ล้านบาท (ประมาณ 1/4 ของงบประมาณแผ่นดินไทย) จะมีรายได้ที่ 5% ของมูลค่าที่ 28,065 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นหากบริจาคเป็นสัดส่วน 2.69% เช่นชาวบ้านทั่วไป ก็เท่ากับว่าต้องบริจาคเป็นเงิน 755 ล้านบาท หรืออย่างกรณี นพ.ปราเสริฐ ประสาททองโอสถ ที่น่าจะมีรายได้ปีละ 5,174 ล้านบาท ก็ควรบริจาคปีละ 127 ล้านบาท
ในที่นี้ ดร.โสภณ ไม่ได้มีข้อมูลยืนยันการบริจาคเงินของอภิมหาเศรษฐีทั้งหลาย แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครบริจาคเงินถึง 2.69% ของรายได้อย่างแน่นอน เพราะเงินบริจาคโดยรวมอยู่ที่ 96,361 ล้านบาท ณ ปี 2548 แต่ในปี 2560 ที่ผ่านมานี้หากอภิมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกบริจาคเงิน ณ 2.69% จริง ก็จะมีมูลค่ารวมกัน 2,678 ล้านบาท หรือเพียง 2.78% ของเงินบริจาคในปี 2548 ถ้าเป็นในฐานปีเดียวกัน ก็คงน้อยกว่านี้มาก
ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าอภิมหาเศรษฐีบริจาคเงินตามสัดส่วนรายได้น้อยกว่าชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง และเมื่อรวมชาวบ้านนับล้านๆ คน ก็นับว่ามหาศาลจริงๆ ตามตัวเลขข้างต้น ผลการบริจาคของชาวบ้านทั่วไปก็เช่น การบริจาคสร้างโบสถ์วิหารทั่วไปที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดมากมายทั่วประเทศ ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เป็นถาวรวัตถุเพื่อการพัฒนาประเทศโดยตรง แต่เป็นที่นิยมเพราะเชื่อว่าได้บุญดีมากนั่นเอง
เรานับถือคนรวยเพราะเขาคงขยันหมั่นเพียร แต่ต้องไม่สยบยอมต่อความรวยโดยไม่เข้าใจให้ถ่องแท้