จากกรณีมีการให้นักเรียนตั้งแถวต้อนรับผู้อำนวยการคนใหม่ ดร.โสภณวิพากษ์ว่านี่คืออาการขอบระบอบศักดินาที่แสนน่าเกลียดชิงชัง
ตามข่าวที่นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง นั่งกับพื้นตามทางและตากแดดตรงสนามฟุตบอล เพื่อกราบขบวนของผู้อำนวยการคนใหม่ที่เข้ามาในโรงเรียนนั้น ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.trebs.ac.th) เห็นว่าไม่เหมาะสม ดร.โสภณสอนทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก ในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำทั้งในและต่างประเทศมองว่านี่เป็นระบอบศักดินาที่ข้าราชการมีอำนาจเหนือประชาชนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ปกติในเมียนมามักไม่กราบ/ไหว้ผู้คนยกเว้นพระรัตนตรัย แม้ไทยจะสอนให้ไหว้ แต่กรณีนี้ไม่สมควร
1. ไม่ควรให้นักเรียนนั่งลงกราบ ยกเว้นในพิธีไหว้ครู
2. ไม่ควรเกณฑ์นักเรียนมากราบต้อนรับใคร เพราะเสียเวลาเล่าเรียน
3. ไม่ควรใช้คะแนนมา “บังคับ” ทำสิ่งที่มิชอบนี้
4. ไม่ควรเพราะเป็นการกระทำแบบนี้เป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (นักเรียน)
5. ไม่ควรทำลายชื่อเสียงโรงเรียนด้วยการให้นักเรียนทำการแบบระบอบเจ้าขุนมูลนายแบบนี้
สำหรับ ดร.โสภณเอง ไม่เคยรอใครไหว้ก่อนตน เห็นใครก็ไหว้ก่อน ถือเป็นการทักทาย ไม่ยึดติดกับการวางฟอร์ม แม้แต่พนักงาน 120 คน ดร.โสภณ ก็ไหว้ก่อน แม้จะเป็นเด็กจบใหม่ ดร.โสภณ เคยได้ทราบว่ามีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปทำงานในกระทรวงแห่งหนึ่งในฐานะบัณฑิตใหม่เมื่อ 40 ปีก่อน เธอเดินสวนกับชายแก่ๆ ใกล้เกษียณ 3 คน. สวนกันอยู่ 3 วัน ชายแก่บอกให้เธอไหว้เพราะพวกเขาเป็นข้าราชการประจำการชั้นผู้ใหญ่ จากเรื่องนี้ ดร.โสภณจึงตั้งใจมั่นว่าวันใดได้เป็น “นายคน” จะไม่ข่มเหงใคร ไหว้เด็กก่อน
เราต้องส่งเสริมบรรยากาศประชาธิปไตย ไม่หมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คนเป็นครูไม่ควรเอาสถานะตนมาย่ำยีผู้อื่น และหาประโยชน์ใส่ตนอย่างน่าละอาย