ขณะนี้ในกรุงเทพมหานครมีบ้านที่อยู่ในมือของผู้ประกอบการที่เสร็จ 100% พร้อมโอนให้ลูกค้าเพียง 39,616 หน่วย แต่รัฐบาลจะให้สิทธิถึง 100,000 ราย จะไปเอาคนมาจากไหน
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าววว่า ณ กลางปี 2562 ซึ่งสถานการณ์ก็คงคล้ายกับ ณ สิ้นปี 2562 มีที่อยู่อาศัยในมือผู้ประกอบการรอขายอยู่ 203,826 หน่วย แยกเป็นห้องชุด 88,788 หน่วย ทาวน์เฮาส์ 61,541 หน่วย บ้านเดีย่ว 34,537 หน่วย บ้านแฝด 14,803 หน่วย และตึกแถว 4,157 หน่วย
อย่างไรก็ตามที่สร้างเสร็จ 100% รอผู้ซื้ออยู่มีเพียง 39,616 หน่วยเท่านั้น ถ้านับรวมที่เสร็จ 80% ขึ้นไป อีก 20,764 หน่วย ก็มีรวมกันเพียง 60,380 หน่วย ในต่างจังหวัดทั้งหมด คาดว่าจะมีอีกจำนวนหนึ่ง รวมแล้วทั่วประเทศ น่าจะมีเพียง 100,000 หน่วย อย่างไรก็ตามปรากฏว่าภายในวันแรกมียอดจองแล้ว 40,000 หน่วย {1} และคาดว่าจะจองหมดภายในเวลาไม่นาน
ถ้าตรวจสอบคุณสมบัติผู้ซื้อปรากฏว่าต้องเป็นผู้อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากรที่มีเงินพึงได้ประเมินในปี 2561 ไม่เกิน 1,200,000 บาท ต่อปี เป็นผู้กู้หรือผู้กู้หลักกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
เป็นการยื่นกู้ใหม่ (ไม่ใช่การ refinance ไม่ใช่การซื้อสด) เป็นที่อยู่อาศัยที่สร้างแล้วเสร็จ (ไม่รวมบ้านมือสองและทรัพย์สินรอการขายของกรมบังคับคดี) และซื้อจากผู้ประกอบการที่เป็นผู้จัดสรรตามกฎหมายเท่านั้น โดยได้รับอนุมัติสินเชื่อและจดจำนองและทำนิติกรรมอื่นๆ แล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 2562 แต่ไม่เกินวันที่ 31 มี.ค. 2563 {2} ตัวเลขคนเหล่านี้ไม่น่าจะมีมากและพร้อมใจกันแห่กันมามากเช่นนี้
ตัวเลขคนจองบ้านเหล่านี้มาจากไหน เป็นสิ่งที่พึงตรวจสอบเป็นอย่างยิ่ง มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่
อ้างอิง
{1} บ้านดีมีดาวน์วันแรกยอดจองเกือบครึ่ง https://news.thaipbs.or.th/content/286969
{2} ปรากฏรายละเอียดใน www.บ้านดีมีดาวน์.com