ดร.โสภณฟันธง รัฐบาลต้องเร่งสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น อย่าไปฟังความจากพวก NGOs จอมทำลายชาติ กีดขวางความเจริญ ทำให้ประชาชนคนเล็กคนน้อยที่รอน้ำท่ามาทำการเกษตรเลย เขื่อนยังช่วยป้องกันน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี มาดูการเปิดโปงพวกต้านเขื่อนแก่งเสือเต้นกัน
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2563 คณะกรรมการคัดค้านเขื่อน ตำบลสะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ออกแถลงการณ์ 'วันหยุดเขื่อนโลกหมดยุคสมัยของการสร้างเขื่อนแล้ว จงใช้ปัญญาและความรู้ที่เคารพต่อธรรมชาติ สู่ยุคการพัฒนาที่ยั่งยืน 14 มี.ค. วันหยุดเขื่อนโลก' ระบุว่าผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อนทั่วโลก หลายสิบล้านคนได้ร่วมกันบอกกล่าวความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนทั่วโลก ว่า “หมดยุคสมัยของการสร้างเขื่อนแล้ว จงใช้ปัญญาและความรู้ที่เคารพต่อธรรมชาติ สู่ยุคการพัฒนาที่ยั่งยืน” เขื่อนได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ ของความล้าสมัย ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ วิถีวัฒนธรรมและชุมชน (https://bit.ly/2U9AE4L) คำกล่าวข้างต้นเป็นเท็จ จำนวนเขื่อนที่สร้างใหม่มีมากกว่าที่รื้อเพราะหมดอายุ แม้แต่ธนาคารโลกยังส่งเสริมการสร้างเขื่อน (https://bit.ly/2vqjp79)
ดร.โสภณ พรโชคชัย เคย post ใน FB เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2557 ได้ post ข้อความ (https://goo.gl/B2QXU4) ว่า "ทีชาวสะเอียบค้านเขื่อนแก่งเสือเต้น กลับฟัง ทีชาวนครสวรรค์อยากได้เขื่อนแม่วงก์ ไม่ฟัง ทำไมชาวสะเอียบมีบ้านไม้ใหญ่ ปลูกไม้/ซื้อเอง เศรษฐีในกรุงยังไม่มีเงินสร้างขนาดนี้ แถมยังไม่ยอมให้สร้างเขื่อน จะเก็บป่าไว้เก็บเห็ดส่วนตัวหรือครับ และมีโฆษณาขายบ้านไม้สักว่า "ขายบ้านไม้สัก ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่"
ที่มา: http://phrae.ขายบ้าน-ขายที่ดิน.com/…/แพร่/สอง/สะ…/56179.html
ในวันเดีวกัน ดร.โสภณ ได้ post ข้อความพร้อมอัลบัมรูป (https://goo.gl/ByuL5C) ว่า "หรือชาวสะเอียบคือผู้ทำลายป่าเสียเอง ชาวบ้าน ต สะเอียบ อ สอง จ แพร่ ต่อต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น แต่ดูวัดในตำบลนี้ เสาล้วนเป็นไม้สักทอง ไม้จากไหน ตัดจากแถวนี้หรือไปซื้อที่อื่น ไม่รักป่าไม้หรือ NGOs ไปเยี่ยม ไม่ฉุกใจคิดหรือ บ้านมากมายก็ปลูกด้วยไม้สักทอง บางหลังปลูกไว้ขายอีกต่างหาก ทำลายป่ามากี่สิบปีแล้ว อ้างรักษาป่า ไม่ให้สร้างเขื่อน เพื่อตนจะได้มีป่าไว้ตัดไม้เอง? โปรดฉุกคิด ไตรตรองครับผม"
ต่อมาในวันที่ 3 สิงหาคม 2557 ดร.โสภณ ได้ post ว่า "Surprise ทัวร์ บ ดอนชัย ต สะเอียบ อ สอง จ แพร่ บ้านใหญ่ๆ ทั้งนั้น แต่ละหลังตัดไม้ทำลายป่ามา? ดูขนาดเสาเรือน ปลูกขายก็มี ว่ากันว่าเด็กๆ ที่เกิดมา ถือขวานติดมือมาแต่เกิด! จริงเท็จประการใด ปล แถมเก็บเห็ด หาของป่าฟรีมานาน จึงไม่ต้องการเขื่อนแก่งเสือเต้น เดี๋ยวสวนครัวสวนตัวที่ใช้แบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาจะหายไป!" (https://goo.gl/SFHKqu)
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557 ดร.โสภณ ยังได้ post เพิ่มเติม (https://goo.gl/k2rXPA) ถึงการแสดงกฎหมู่ละเมิดผู้อื่นของผู้เสียผลประโยชน์ว่า "คนสะเอียบที่ค้านเขื่อนแก่งเสือเต้น บังคับ 3 จนท ที่นัดพบประธานคัดค้านเขื่อน สาบานต่อหน้าพระประธานวัด ว่าจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว/ศึกษาเขื่อนอีก หากผิดคำสาบานขอให้มีอันเป็นไป จนท หญิงไม่ยอม ชาวบ้านนำขันน้ำมนต์สาดหัวเลย ต่อมา จนท นำเอกสารเชิญร่วมเวทีรับฟังความเห็น ชาวบ้านก็ไม่ฟัง ดู http://goo.gl/dE6jEk อย่าให้ผู้เสียผลประโยชน์ค้านโครงการดีๆ"
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2557 ดร.โสภณ ยังได้ post ใน FB บอกว่า "ชาวสะเอียบที่ค้านเขื่อนแก่งเสือเต้น - ประชุมค้านบนโต๊ะไม้สักขนาดใหญ่ - บ้านแต่ละหลังก็ไม้สักใหญ่ทั้งนั้น - แถมข่มขู่ตั้งตนเปนรัฐอิสระเสียอีก ชอบกล เก็บป่าไว้ให้เฉพาะพวกตัวใช้? สนับสนุนการสร้างเขื่อนเพื่อส่วนรวม (https://goo.gl/qjg7Ae)
และเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ดร.โสภณ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า "ทำไมชาวสะเอียบจึงค้านเขื่อนแก่งเสือเต้น
ดูเสาบ้านซะก่อนล้วนเป็นไม้สักทอง ไม้จากไหน ตัดจากแถวนี้หรือไปซื้อที่อื่น ไม่รักป่าไม้หรือ บางหลังปลูกไว้ขายอีกต่างหาก ทำลายป่ามากี่สิบปีแล้ว อ้างรักษาป่า ไม่ให้สร้างเขื่อน เพื่อตนจะได้มีป่าไว้ตัดไม้เอง?" (https://goo.gl/pF1Ese)
เขื่อนแก่งเสือเต้นน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนจริงๆ จะฟังแต่กฎหมู่ ผู้เสียผลประโยชน์กลุ่มเล็ก ๆ คงไม่ได้ ไม่เช่นนั้น จะพัฒนาอะไรก็ติดขัดไปหมด หากจำเป็นต้องมีการพัฒนาในพื้นที่ๆ มีประชาชนอาศัยอยู่ ก็ต้องมีการเวนคืนจ่ายค่าทดแทนให้เหมาะสม ไม่เอาเปรียบประชาชน แต่ประชาชนที่เสียผลประโยชน์จะ "ยืนกระต่ายขาเดียว" ไม่ยอม คงไม่ได้