เรื่องเท็จจากคำแถลงของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
  AREA แถลง ฉบับที่ 172/2563: วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ผมไม่ใช่คอการเมือง ในวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกับสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น  ผมก็ไม่ทันได้ฟัง  มาฟังเอาตอนเช้าวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เข้าให้ เลยเขียนบทความนี้ช้าหน่อย  แต่ไม่ได้ตั้งใจเขียนไปช่วยการอภิปรายของฝ่ายค้าน เพียงแต่เพื่อสังคมอุดมปัญญา จะได้ไม่ถูก ดร.สมคิด หลอก!

            ท่าน ดร.สมคิด พูดไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในหลายๆ ประเด็น
            1. เริ่มต้นขึ้นมาท่านก็แสดงตนเป็นคนอกตัญญู บอกว่าที่ทักษิณแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ก็เพราะสถานการณ์โลกดี ไม่ให้เครดิตอดีตนายกฯ ผู้ใช้หนี้ IMF ได้สำเร็จเลย คนแบบนี้ไม่น่าไว้วางใจเป็นอย่างยิ่ง  การให้เกียรติคนอื่น ไม่ใช่สิ่งเสียหายแต่เป็นการสร้างเครดิตของตนเองต่างหาก
            2. ท่านก็ยังแนะนำให้รัฐบาลประยุทธ์ ทำเรื่องจำนำข้าวกับประกันราคาข้าว แต่ที่ไม่ทำก็เพราะจะเป็นการให้เครดิตกับรัฐบาลเก่าต่างหาก ราคาข้าวเลยตกต่ำหนัก ชาวบ้านเดือดร้อน แต่ที่ราคาข้าวในช่วงหลังขึ้นเพราะมีผลผลิตน้อย ฝนแล้ง น้ำท่วม รัฐบาลสั่งห้ามปลูก ราคาเลยขึ้น
            3. ดร.สมคิดบอกว่าการเจริญเติบโตของ GDP ดี แต่ความเป็นจริงแล้ว มีแต่ตัวเลข ประชาชนจนลง รายได้ของประชาชนลดลงเห็นๆ (จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติเอง)
            4. ดร.สมคิดบอกว่าปัญหาของเราคือราคาพืชผลต่ำ แต่กลับยกเลิกจำนำข้าว ทำให้ประชาชนยากจนย่ำแย่ลง อย่างนี้เท่ากับฆ่าประชาชนอย่างช้าๆ ทุกวันนี้ชนบทย่ำแย่ไปแทบหมดแล้ว หรือการปล่อยให้ประชาชนจนลง  จะดีต่อผู้ปกครอง ทำให้ไม่มีแรงต่อต้าน
            5. อีอีซีเป็นเรื่องเท็จ แม้ไม่มีอีอีซี พัทยาก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอยู่แล้ว ที่บอกว่าจะไปทำอุตสาหกรรมเกษตรที่อีอีซี ทำไมไม่ไปทำที่อื่นที่มีผลิตทางการเกษตรมากกว่า ในอีอีซี ประชาชนคงไม่เน้นรายได้จากการเกษตรแล้ว
            6. ดร.สมคิดป้ายสีว่า ดร.ทักษิณ คิดแต่จะกู้เงินมาพัฒนาประเทศ ทั้งที่เขาเป็นคนใช้หนี้ IMF นี่เป็นกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานอะไรว่าทักษิณเน้นกู้  ในทางตรงกันข้ามยุคประยุทธ์ต่างหากที่กู้มหาศาล แถมพาเจ้าสัวมาหากินกับชาวบ้าน
            7. ที่บอกว่าอีอีซีกำลังไปได้สวย  แต่ความจริงอีอีซีกำลังจะเจ๊ง มูลค่าการลงทุนของนักลงทุนข้ามชาติเข้ามาในปี 2562 น้อยกว่าปี 2561 นี่แสดงว่ารัฐบาลล้มเหลวใช่ไหม
            8. ดร.สมคิดคุยว่าอีอีซีดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่แท้จริงแล้วอีอีซีเป็นยุทธศาสตร์หลอกลวง จีนวิ่งจากเหนือลงใต้ ไม่ต้องพ่วงอะไรกับอีอีซีเลย การวิ่งเชื่อมจากทวายของเมียนมาไปเชื่อมกับหวุงเต่าของเวียดนามใต้ ก็ไม่ต้องผ่านอีอีซี   ส่วนการวิ่งจากเมาะลำเลิง ผ่านแม่สอด ไปดานัง ก็ไม่ต้องผ่านอีอีซีเช่นกัน   อีอีซีเป็นแค่ติ่งที่อยู่นอกแนวโคจรของถนนสายไหมใหม่ของจีน
            9. ดร.สมคิดบังอาจคุยว่ารัฐบาลประยุทธ์ทำอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน  แต่ความจริงแล้ว ทักษิณทำอินเตอร์เน็ตตำบลมาตั้งแต่ปี 2544 หรือเกือบ 20 ปีมาแล้ว  ถ้าทักษิณยังอยู่ ป่านนี้ประเทศคงเจริญไปถึงไหนแล้ว
            10. เรื่อง e-payment พร้อมเพย์ ก็เป็นระบบที่ก้าวตามยุคสมัยอยู่แล้ว ธนาคารทั้งหลายก็ร่วมกันทำ รัฐบาลประยุทธ์แค่เป็นผู้ตาม  ยุคนี้บอกว่าจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ แต่ต้องจ่ายผ่านร้าน “เจ้าสัว” ด้วย  อย่างนี้แย่หรือไม่
            11. เรื่อง Smart Farmers ก็เป็นแค่วาทกรรมใหม่เท่านั้น  สมัยทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ พัฒนาจนประชาชนลืมตาอ้าปากได้ มีโอท็อปประชาชนพึ่งตนเองได้  สมัยนี้ประชาชนทั่วไปยากจนลงอย่างเห็นได้ชัด  รัฐบาลนี้ช่วยเหลือหรือช่วยเถือประชาชนกันแน่
            12. นโยบายท่องเที่ยวเมืองรองไร้ผล คนไทยไปเที่ยวกันแค่ไหน ส่วนนโยบายชิมช้อปใช้ ก็เน้นการผลาญเงิน  คนที่เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ตก็ไม่ได้ประโยชน์ด้วย หรือรัฐบาลชอบเห็นคนแย่งกันรับทานแบบงาน “เทกระจาด” เพื่อให้ดูสะใจหรืออย่างไร
            13. ดร.สมคิดบังอาจคุยว่าประธานธนาคารโลกชมรัฐบาลของท่านในปี 2561 ผมเห็นว่าไม่จริง ถ้าจริงคงคุยโวไปมากมายแล้ว ดร.สมคิดคงไม่เก็บงำไว้หรอก  เชื่อว่าเขาคงเขียนชมประเทศไทยโดยรวมที่พัฒนามาในรอบ 20-30 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้เจาะจงรัฐบาลประยุทธ์
            14. ดร.สมคิดยกตัวอย่างว่า GDP โตอย่างมาก แต่แท้ที่จริงแล้วเฉลี่ยแต่ละปีก็โตไม่มาก โตน้อยกว่าของรัฐบาลปูเสียอีก  ถ้าไม่มีรัฐประหารก็คงเติบโตมากกว่า
            15. ดร.สมคิดโวว่ามีมิตรประเทศมากขึ้น แต่แท้ที่จริงแล้ว ประเทศทั่วโลกเห็นๆ อยู่ว่ารัฐบาลนี้เป็นเสมือนลูกไล่ของจีน  กรณีการจัดประชุมอาเซียนสำเร็จ ก็ไม่ได้แสดงถึงความสามารถ พม่าในยุคเผด็จการครองเมืองและเป็นประธานอาเซียนเช่นกัน ก็ยังจัดได้เช่นกัน
            16. ที่สำคัญก็คือเติบโตน้อยกว่าประเทศใดๆ ในอาเซียน (ยกเว้นสิงคโปร์และบรูไน) โตแพ้กระทั่งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่ฐานะใกล้เคียงไทย  แม้แต่มาเลเซียที่มีรายได้ต่อหัวสูงกว่า ก็ยังเติบโตมากกว่าไทย

            เหล่านี้แสดงถึงความล้มเหลวของรัฐบาลโดยเฉพาะ  อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้ไม่ได้ใช้เพื่อการอภิปรายทางเมือง  (ที่ผ่านไปแล้ว) แต่เพื่อให้ประชาชนได้รู้ความจริง 

อ่าน 3,306 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved