ไทยจะใช้เคอร์ฟิวหรือไม่ มาลองดูประเทศเพื่อนบ้าน
  AREA แถลง ฉบับที่ 179/2563: วันอังคารที่ 24 มีนาคม 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            มีข่าวว่ารัฐบาลจะสั่งปิดเมืองรับมือโรคไวรัสโควิด 19 มาดูกันว่าประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ดำเนินการกันอย่างไรบ้าง

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้สอบถามจากผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นายหน้าและที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI) ซึ่งเป็นสมาคมอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในประเทศไทย ดร.โสภณเป็นนายกสมาคม FIABCI-Thai ด้วย

            ผลการสำรวจเป็นดังนี้:
            กลุ่มที่ 1 ประเทศที่ค่อนข้างมีผลรุนแรง คือมาเลเซียที่ปิดเมือง ห้ามคนออกนอกบ้าน เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงถึง 1,518 คน และเสียชีวิตไป 14 คนแล้ว ส่วนฟิลิปปินส์ แม้มีจำนวนผู้ติดเชื่อไม่มาก แต่มีผู้เสียชีวิตไป 33 คนแล้ว จึงปิดเมืองใหม่โดยเฉพาะกรุงมะนิลาและอื่นๆ
            - มาเลเซีย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อถึง 1,518 คน และเสียชีวิตไป 14 คน ปรากฏว่ารัฐบาลสั่งหยุดงานทุกอย่าง และให้ทุกคนอยู่บ้านยกเว้นออกไปซื้อของจำเป็นเท่านั้น ผู้ฝ่าฝืนย่อมมีความผิดอย่างแน่นอน
            - ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 501 คน และเสียชีวิตไปแล้วถึง 33 คน กรุงมะนิลาและนครใหญ่ๆ ทั่วฟิลิปปินส์ปิดไปแล้ว อนุญาตคนออกจากบ้านเฉพาะในกรณีจำเป็นเท่านั้น
            - อินโดนีเซีย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 579 คน และเสียชีวิตไปแล้วถึง 49 คน ในหลายเมืองปิดไปแล้วเพราะประเทศนี้มีผู้เสียชีวิตมาก แต่ก็ยังมีอนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านไปทำงานบ้าง และก็พยายามสนับสนุนให้ทำงานที่บ้าน โรงเรียนและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ปิดแล้ว แต่สำนักงานและศูนย์การค้ายังเปิดอยู่ตามปกติ

            กลุ่มที่ 2 ประเทศที่ในช่วงแรกมีผลกระทบหนักต่อจากจีน แต่ได้มีการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ จนภาวะต่างๆ ไม่ได้น่ากลัว เช่น
            - สิงคโปร์ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 509 คน และเสียชีวิตไป 2 คน ยังอนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านได้ตามความจำเป็นยังไม่มีการปิดเมืองแต่อย่างใด  เขาค่อนข้างมั่นใจว่ารัฐบาลของเขา “เอาอยู่”  จะสังเกตได้ว่ามีประชาชนชาวมาเลเซียย้ายเข้าสิงคโปร์ในช่วงคำสั่งปิดเมืองของมาเลเซียสูงถึง 300,000 คน (https://reut.rs/2QENJ5p) เพราะเชื่อว่าสิงคโปร์ปลอดภัยกว่า
            - ฮ่องกง ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 357 คน และเสียชีวิตไป 4 คน ยังอนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านได้ตามความจำเป็น ยังไม่มีการปิดเมืองแต่อย่างใด  บาร์และร้านอาหารทั้งหลายต้องปิดหลัง 20:00 น. เป็นต้นไป
            - เกาหลีใต้ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 9,037 คน และเสียชีวิตไปแล้วถึง 120 คน ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังอยู่บ้าน แต่นักธุรกิจและคนทำงานก็ยังออกทำงานกันแทบจะเป็นปกติ ธุรกิจยังต้องดำเนินต่อไป
            - ญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้ติดเชื้อถึง 1,141 คน และเสียชีวิตไป 45 คน ยังอนุญาตให้ประชาชนออกจากบ้านได้ บริษัทใหญ่ๆ อาจมีคนทำงานที่บ้านสัก 20% แต่บริษัททั่วไปก็ยังออกเดินทางไปทำงานกันตามปกติ ชีวิตไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก

            ดังนี้สำหรับประเทศไทย ที่มีผู้ติดเชื้อแล้ว 827 คน และเสียชีวิต 4 คน จะใช้มาตรการแบบเดียวกับกลุ่มประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากและรุนแรง หรือใช้มาตรการแบบประเทศที่ “เอาอยู่” ก็ต้องอยู่ที่การประเมินของทางราชการแล้ว (ประเมินให้ถูกๆ ก็แล้วกัน)

อ่าน 3,134 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved