ถ้าเทียบทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วยขาย มูลค่าการพัฒนาที่เปิดตัว การเปิดตัวตลาดที่อยู่อาศัยหดตัวกว่าปี 2562 เป็นอย่างมาก แต่ก็มีข้อยกเว้นบางประการ
            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าศูนย์ข้อมูลเป็นหน่วยงานที่สำรวจข้อมูลอย่างกว้างขวาง และต่อเนื่องที่สุดในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2537 พบมีการหดตัวของตลาดอย่างขนานใหญ่ว่า:

           1. ในปี 2563 การเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2563 มีเพียง 89 โครงการ ลดลงจากปีก่อนในห้วงเวลาเดียวกันที่เปิดตัว 134 โครงการถึง 34%
            2. จำนวนหน่วยที่เปิดตัวใน 4 เดือนแรกก็ลดลงจาก 35,639 หน่วยในปี 2562 เหลือ 20,249 หน่วย ในปี 2563 หรือลดลง 43%
            3. มูลค่าการพัฒนาของโครงการเปิดใหม่ก็ลดลง 35% โดยใน 4 เดือนแรกของปี 2562 เปิดตัวมีมูลค่ารวมกัน 121,925 ล้านบาท แต่ในปี 2563 เปิดตัวเพียง 79,162 ล้านบาทหรือลดลงถึง 35%
            4. บ้านเดี่ยวก็เปิดตัวลดลง 28% คือเปิด 2,278 หน่วยในปี 2563 จากที่เคยเปิด 3,148 หน่วยในปี 2562 นั่นเอง
            5. ห้องชุดเปิดตัวลดลงมากที่สุด คือเปิดใหม่เพียง 6,919 หน่วยใน 4 เดือนแรกของปี 2563 แต่ในปีก่อนหน้าเปิดตัวถึง 22,619 หน่วย หรือลดลงถึง 69% เลยทีเดียว
            6. อย่างไรก็ตามในกรณีทาวน์เฮาส์ กลับมีจำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้น จาก 7,803 หน่วยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 เพิ่มเป็น 9,419 หน่วยในห้วงเวลาเดียวกันของปี 2563 หรือเพิ่มขึ้นถึง 21%
            7. ที่สวนกระแสอีกอยากหนึ่งคือ ราคาขายต่อหน่วยก็กลับเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 14% จาก 3.421 ล้านบาทในปี 2562 เป็น 3.909 ล้านบาทต่อหน่วยในปี 2563
            ปรากฏการณ์ที่เห็นข้างต้น ให้ข้อสรุปที่น่าสนใจซึ่งชี้ถึงทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงบเทพมหานครและปริมณฑลที่ตกอยู่ในสภาพน่าห่วงว่า
            1. ตลาดกำลังหดตัวอย่างหนัก โอกาสที่การขายสินค้าต่อเนื่อง เช่น วัสดุก่อสร้าง กิจการตกแต่งต่อเติมต่างๆ ก็คงจะพลอยหดตัวไปด้วย
            2. การที่บ้านราคาแพงขึ้นแสดงว่าบ้านระดับราคาถูกทำได้ยากขึ้น ผู้มีรายได้น้อยมีความสามารถในการซื้อลดลง แต่ผู้มีรายได้สูง ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนักจากวิกฤติเศรษฐกิจในรอบนี้
            3. สินค้าที่มีผู้เก็งกำไรไว้มากคือห้องชุดหดตัวชัดเจน แสดงถึงความอิ่มตัวของการเก็งกำไร นักพัฒนาที่ดินจึงต้องพยายามมองหาผู้ซื้อที่เป็นผู้ใช้สอยบ้านเองเป็นหลัก (End Users) แทนนักเก็งกำไร

            ผู้สนใจต้องติดตามสถานการณ์และข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยใกล้ชิดเพื่อไม่พลาดในการลงทุน