ตามที่มีข่าวเรื่อง “โฉนดที่ดินถุงกล้วยแขก” ซึ่งเป็นกรณีพิพาทที่ดินของวัดสวนแก้ว จะสังเกตได้ว่ามีแต่ข้อมูลของพระพยอมด้านเดียว และบางครั้งก็เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ดร.โสภณ จึงทำคลิปนี้ขึ้นเพื่อเป็นกรณีศึกษาให้ชาวพุทธยึดพระธรรมแทนพระสงฆ์ในเรื่องกาลามสูตร
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ให้ความเห็นต่อกรณี “โฉนดที่ดินถุงกล้วยแขก” ซึ่งพระพยอมโดยมูลนิธิสวนแก้วซื้อที่ดินที่มาจากการครอบครองปรปักษ์แล้วกลายเป็นโมฆะ จนพระพยอมท่านประท้วงด้วยการเอาโฉนดที่ดินที่ไร้ค่าเช่นกระดาษที่ไม่ใช้แล้วมาทำถุงกล้วยแขก
อย่างไรก็ตามเรามักได้ข่าวเรื่องนี้จากพระพยอมฝ่ายเดียว ซึ่งบางครั้งท่านเองก็พูดไม่ตรงกัน เช่น ที่มาของเงิน 10 ล้านบาท หรืออย่างที่ท่านพูดถึงการ “ปลงแล้ว” มาหลายที แต่ตั้งแต่แพ้คดีเมื่อปี 2550 ท่านก็ยังยึดครองที่ดินแปลงนี้ไว้ใช้ประโยชน์จนเจ้าของต้องไปฟ้องร้องจนกระทั่งเป็นที่มาของการที่เจ้าของที่ดินมาล้อมรั้วไว้หลังจากที่พระพะยอมแพ้คดีอีก
หลายท่านอาจไม่ทราบว่า ในขณะที่ดูพระพยอม “ปลงแล้ว” แต่เมื่อปี 2560 ท่านยังไปยื่นขอครอบครองปรปักษ์โดยอ้างว่าครอบครองมาตั้งแต่ปี 2547-2559 ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าเจ้าของได้มาขอคืนและศาลสั่งให้ที่ดินนี้กลับไปเป็นของเจ้าของเดิม ยิ่งกว่านั้นในปี 2561 ท่านในนามของวัดสวนแก้วยังถวายฎีกาในหลวง หาว่าศาล “พิจารณาพิพากษาโดยละเมิดพระปรมาภิไธยฯ” อีกต่างหาก แสดงว่าท่านไม่เคยหยุดครอบครองที่ดินแปลงนี้ตามศาลสั่งเลย
มาดูคลิปต่อไปนี้