AREA แถลง ฉบับที่ 99/2555: 24 สิงหาคม 2555
ขณะนี้รัฐบาลควรช่วยผู้ซื้อบ้านไหม
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ตามที่มีข่าวว่านโยบายสินเชื่อบ้านหลังแรกของรัฐบาลไม่บรรลุผล กล่าวคือมีการใช้เงินไปเพียง 4,000 ล้านบาทจากงบประมาณ 20,000 ล้านบาท สำหรับบ้านหลังแรกที่ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี ดังนั้นจึงมีผู้เสนอให้ปรับเกณฑ์ราคาบ้านเป็นไม่เกินหลังละ 3 ล้านบาทเพื่อหวังให้มีบ้านที่สามารถกู้ได้เพิ่มขึ้นนั้น ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าว เพราะ
1. ในปัจจุบันสถาบันการเงินต่างก็แข่งขันกันอำนวยสินเชื่อให้กับผู้ซื้อบ้านด้วยเงื่อนไขที่ดีที่สุดอยู่แล้ว เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย การให้ผ่อนระยะยาว 40-50 ปี ฯลฯ รัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องไปสนับสนุน รัฐบาลควรนำเงินไปพัฒนาประเทศในทางอื่นที่จำเป็นมากกว่า ยิ่งกว่านั้นสถานการณ์การซื้อขายที่อยู่อาศัยก็อยู่ในสภาพที่คล่องตัวเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเข้าแทรกแซงหรือให้การสนับสนุนแต่อย่างใด
2. ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า มีที่อยู่อาศัยที่ยังเหลือรอการขายจากผู้ประกอบการอยู่เพียง 129,117 หน่วย ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดลง และจำนวนนี้คาดว่าจะขายได้หมดภายในเวลา 20 เดือนนับแต่กลางปี พ.ศ.2555 ยิ่งในส่วนของห้องชุดพักอาศัย จะใช้เวลาขายอีกไม่เกิน 13 เดือนเท่านั้น
3. ในจำนวน 129,117 หน่วยนี้ ปรากฏว่า เป็นที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทเพียง 18,284 หน่วยหรือ 14% ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย ส่วนที่จะขยายถึง 3 ล้านบาทคงเป็นไปได้ยาก เพราะราคาเฉลี่ยบ้านที่ขายอยู่นั้นราคา 2.631 ล้านบาทเท่านั้น หากมีความจำเป็นต้องขยาย ก็ควรขยายไปถึงระดับไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งมีอีก 39,201 หน่วย หรืออีก 30% ของบ้านทั้งหมด ดังนั้นหากนับรวมบ้านที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จะมีถึง 44% ของทั้งตลาดเข้าไปแล้ว สำหรับบ้านระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีอีก 18% ที่ราคา 3-5 ล้านบาทมี 25% ส่วนที่เหลือมีราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไปอีก 13%
4. ในจำนวนที่อยู่อาศัย 129,117 หน่วยนั้น มีถึง 30% ก่อสร้างไม่ถึง 40% ที่ก่อสร้างตั้งแต่ 80%-100% มีอย่เพี่ยง 28% เท่านั้น ดังนั้นส่วนใหญ่ที่ขายยังเป็นบ้านที่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จนั่นเอง ดังนั้นหากมีปัญหากับตลาดที่อยู่อาศัย ก็ไม่เกิดปัญหาการสร้างล้นเกิน เพราะส่วนมากยังสร้างได้ไม่มากนักนั่นเอง
โดยที่การซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินโดยการแข่งกันอำนวยสินเชื่อด้วยเงื่อนไขที่ดีหลายประการ ตลาดที่อยู่อาศัยก็มีสภาพซื้อง่ายขายคล่องดี รัฐบาลจึงไม่มีความจำเป็นต้องให้การช่วยเหลือตลาดที่อยู่อาศัยแต่อย่างใด รอไว้หากเกิดวิกฤติ รัฐบาลค่อยยื่นมือเข้าช่วยเหลือก็ยังไม่สาย
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน |