ดร.โสภณ ไหว้เพื่อยกย่องคนและตัดกิเลส
  AREA แถลง ฉบับที่ 413/2563: วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            คนที่มีคุณวุฒิและวัยวุฒิมักชอบแต่รับไหว้โดยเฉพาะพวกที่ยึดถือยศถาบรรดาศักดิ์มีความเป็นศักดินาสูง  บางคนรอให้คนไหว้โดยไม่รับไหว้ด้วยซ้ำไป แต่ผมพบใครไหว้ก็ยกมือไหว้ก่อนกับทุกคนคนแม้เด็กและผู้มีฐานะด้อยกว่า เพื่อยืนหยัดความคิดแบบอภิวัฒน์ ไม่รับระเบียบเก่าแบบศักดินาและส่งเสริมการไหว้ตามประเพณีไทย

            ในสังคมไทย ณ พ.ศ.2563 พวกมียศถาบรรดาศักดิ์หรือมักมากกับการไต่เต้ามักหยิ่งในศักดิ์ศรีจอมปลอม แต่ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  ผม (ดร.โสภณ พรโชคชัย) ในฐานะประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) จึงพยายามชูธงโต้กระแสทวน ไม่ยอมรับแนวคิดที่ล้าหลังแบบนี้  ผมจึงพยายามรักษาประเพณีการไหว้คนเมื่อพบใครก่อน ไม่ใช่รอให้ใครไหว้ตนเองก่อน แม้จะมีคุณวุฒิและวัยวุฒิสูงกว่าก็ตาม 

            ในกิจวัตรประจำวัน ผมมักจะ
            1. ตอนเช้าตรู่เดินออกจากบ้านมาพบกับพนักงานรักษาความปลอดภัย ก็ทักทายด้วยการไหว้ก่อนเสมอ
            2. พบแม่บ้านวัย 22 ก็ไหว้ทักทายเช่นกัน
            3. ก่อนไปทำงาน ก็ไปหาแม่ที่บ้านน้องชายก่อน พบพนักงานกวาดถนน 2 คน แถวหน้าบ้าน ก็ทักทายด้วยการไหว้อีกเช่นเคย
            4. เรียกจักรยานยนต์รับจ้างที่วินขาประจำก็ไหว้กันอีก ปกติผมจะเดินไปบ้านแม่ แต่เพื่ออุดหนุนกันก็เลยใช้บริการวินแทนการเดิน
            5. เดินออกจากหมู่บ้านเจอยามอีกชุดก็ไหว้อีกแล้ว
            6. ระหว่างทางมาพบวินจักรยานยนต์ทั้งกลุ่ม ก็ไหว้ทักทายกันอีกครั้ง พร้อมกับอวยพรให้เขาหาเงินได้มากๆ เป็นการให้กำลังใจ
            7. มาถึงที่ทำงาน มีเพื่อนร่วมงานร้อยกว่าคนตั้งแต่เจอแม่บ้าน ยาม และเพื่อนร่วมงานแต่ละคนก็ไหว้ทักทายกันและกันเสมอ

            ผมถือว่าการไหว้เป็นประเพณีสำคัญของไทยและคนในภูมิภาคเอเชียใต้และอาคเนย์นี้ที่ควรรักษาไว้ เพราะคนไทยไม่นิยมการจับมือกัน  แต่คนมีคุณวุฒิและวัยวุฒิสูงกว่ามักรอแต่การรับไหว้  เพื่อเป็นการละทิฐิ ตัดกิเลสในความเป็นตัวตนหรือ Ego ของคนเรา  เราจึงควรไหว้คนที่เราพบเห็นก่อน  และการนี้จะเป็นการสร้างธรรมเนียมการเคารพนับถือในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกันและกัน ไม่ใช่รอคนมาไหว้ แถมบางคนยังไม่ไหว้ตอบ

            อย่างไรก็ตามคนไทยเราเองบางคนก็ไม่คุ้นเคยกับการไหว้ กล่าวคือ
            1. ไม่คุ้นเคยกับการไหว้คนอื่น แม้คนๆ นั้นจะมีคุณวุฒิและวัยวุฒิสูงกว่าตน แต่ถ้าเป็นในประเทศเมียนมา เขาจะไม่ไหว้กันและกัน  แต่เดิมเขาจะไหว้พระรัตนตรัยเท่านั้น  ยิ่งในช่วงที่อังกฤษเข้าครอบครอง เขาจะให้คนเมียนมาจับมือกัน โดยในช่วงแรกหญิงเมียนมาจะรู้สึกกระอักกระอ่วนมากที่ต้องสัมผัสมือชาย  แต่ในประเทศไทยไม่เคยมีธรรมเนียมแบบนี้ แต่คนไทยยุคใหม่หลายคนกลับไม่คุ้นเคยกับการไหว้
            2. ไม่คุ้นเคยกับการรับไหว้ ไม่รู้จักรับไหว้คนอื่นที่อ่อนวัยกว่าเราไหว้ กลับยืนเฉยๆ  แต่ข้อนี้อาจยกเว้นในกรณีครูกับเด็กอนุบาลหรือเด็กประถม  แต่เราก็ควรสอนผู้ใหญ่ให้รู้จักการรับไหว้ด้วย  การไม่รับไหว้คนอื่น ก็คงสงวนไว้เฉพาะพระภิกษุเท่านั้น  ผู้มีคุณวุฒิและวัยวุฒิสูงกว่าจึงควรมีมรรยาทในการรับไหว้เช่นกัน 

            เราต้องรู้จักน้อมใจไหว้คนอื่นก่อน เพื่อลดทิฐิ-กิเลสในตน คนที่ถูกไหว้มากๆ โดยไม่รู้จักรับไหว้หรือไหว้คนอื่นก่อน อาจเป็นบ้าไปได้ นึกว่าตนเองเป็นเทวดาไปซะงั้น

อ่าน 24,771 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved