ในช่วงปี 2539-2563 หรือ 24 ปีที่ผ่านมา ราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นจาก 1 เป็น 2.15 เท่า หรือเพิ่มขึ้นปีละ 3.24% แต่ในปีล่าสุด (2562-3) ราคาค่าก่อสร้างกลับลดลง 1.3%
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะประธานก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มูลนิธิฯ ได้รวบรวมราคาค่าก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปี 2563 โดยในช่วง 5 ปีหลังนี้ ได้ดำเนินการปรับปรุงข้อมูลเป็นรายไตรมาส มูลนิธิฯ ได้ข้อค้นพบที่น่าสนใจหลายประการ
จะเห็นได้ว่าในรอบ 24 ปีที่ผ่านมา (2539-2563) ราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น โดยปรับจาก 1 เป็น 2.15 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นเท่าตัวเศษๆ เช่น ถ้าสร้างบ้านหลังหนึ่งในปี 2539 เป็นเงิน 1 ล้านบาท ณ ปี 2563 ต้องใช้เงินถึง 2.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว (1.15 ล้านบาท) ถ้าสร้างใหม่ในราคา 2.15 ล้านบาท แล้วหักค่าเสื่อมปีละ 2% เป็นเวลา 24 ปี ก็จะได้ค่าเสื่อม 48% หรือ เหลือมูลค่า 52% ของราคาปัจจุบันคือ 1.118 ล้านบาท ซึ่งก็ยังมากกว่าค่าก่อสร้างเดิมที่ 1 ล้านบาท แสดงว่าตัวบ้านก็มีการเพิ่มค่าเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นบ้านที่มีการดูแลอย่างดี ก็จะเพิ่มค่ามากกว่าเดิมเป็นอันมาก เนื่องจากค่าเสื่อมน้อยลง
ค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นปีละ 3.24% นั้นสูงกว่าเงินเฟ้อต่อปี แสดงว่าความต้องการในการก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมามีมาก จึงปรับราคาค่าก่อสร้างขึ้นสูงมาก โดยเฉพาะในช่วงปี 2539-2549 แต่หลังจากนั้นการปรับราคาก็คงค่อยๆ เพิ่มช้าลง จนถึงช่วงปี 2560-2563 ค่าก่อสร้างกลับมีแนวโน้มลดน้อยลง โดยเฉพาะในปี 2563 ราคาลดต่ำลงชัดเจนเป็นพิเศษ
อาจกล่าวได้ว่าในรอบ 24 ปีที่ผ่านมา บ้านเดี่ยวไม้ 2 ชั้น มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสูงสุดที่ 2.44 เท่า หรือเพิ่มขึ้นปีละ 3.79% ในขณะที่ทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว มีราคาเพิ่มขึ้นต่ำสุดคือ 1.94 เท่า หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นปีละ 2.79% โดยเฉลี่ย ส่วนในรอบ 1 ปีล่าสุดปรากฏว่า ค่าก่อสร้างอาคารลดลงทุกประเภทอาคาร โดย 6 บ้านเดี่ยวตึก 2-3 ชั้น ลดลงไม่มากเพียง 0.8% ต่อปี ในขณะที่อาคารพักอาศัย 16-25 ชั้น ค่าก่อสร้างลดลงต่ำสุดคือ 1.9% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา