มาดูประเภทสินค้าที่เป็นบ้านแนวราวและอาคารชุดพักอาศัยที่ลดแหลกถึง 14% - 32% ในช่วงเดือนธันวาคม 2562 เทียบกับมิถุนายน 2563 กัน ประเภทไหนเสี่ยงสุด

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะที่สำรวจข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2537 และสำรวจรายไตรมาสจำนวน 2,500 โครงการพบว่า มีโครงการบ้านแนวราบและอาคารชุดพักอาศัยที่ลดราคาถึง 14% - 32% ในช่วงเดือนธันวาคม 2562 เทียบกับมิถุนายน 2563 มาดูว่า 20 อันดับแรกมีอะไรบ้าง

            อันดับที่ 1 ทำเล K3: มหาชัย-เศรษฐกิจ โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 0.500-1.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 1.290 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 0.880 ล้านบาท หรือลดลงถึง -31.8% กรณีนี้แสดงว่าผู้มีรายได้น้อยที่เป็นคนงานหมดความสามารถในการซื้อแล้ว จึงต้อง "ลดแหลก" ถึงขนาดนี้ บ่งบอกถึงวิกฤติของชาว "รากหญ้า"

            อันดับที่ 2 ทำเล B3: แจ้งวัฒนะ โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 0.500-1.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 1.444 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 0.989 ล้านบาท หรือลดลงถึง -31.5% กรณีนี้ก็เป็นในทำนองเดียวกัน ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นคนงานหมดความสามารถในการซื้อแล้ว จึงต้อง "ลดแหลก" ถึงขนาดนี้ บ่งบอกถึงวิกฤติของชาว "รากหญ้า"

            อันดับที่ 3 ทำเล F1: วิภาวดี-รัชดา โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 10.001-20.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 19.364 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 14.318 ล้านบาท หรือลดลงถึง -26.1% นี่เป็นกรณีศึกษาของการตั้งราคาห้องชุดที่ "แพงเวอร์" เกินความเป็นจริงไปมาก แต่มีผู้หลงซื้อ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับสู่ภาวะที่เป็นจริง

            อันดับที่ 4 ทำเล D4: ลาดพร้าว-ไมยราบ โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 1.001-2.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 2.340 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 1.757 ล้านบาท หรือลดลงถึง -24.9% ห้องชุดในระดับราคานี้ในย่านนี้ซึ่งถือว่าอยู่ห่างไกลใจกลางเมือง แต่ตามกระแสรถไฟฟ้า ก็ต้องลดราคาลงมาในที่สุด

            อันดับที่ 5 ทำเล N5: ไทรน้อย-สุพรรณบุรี โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 0.500-1.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 1.067 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 0.818 ล้านบาท หรือลดลงถึง -23.4% ถือว่าเป็นการลดราคาลงมาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เนื่องจากกำลังซื้อหดตัวฉับพลัน

            อันดับที่ 6 ทำเล G5: ลาดกระบัง โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 1.001-2.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 2.020 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 1.628 ล้านบาท หรือลดลงถึง -19.4% ถือว่าเป็นการลดราคาลงมาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ราคาที่ตั้งก่อนนี้ ห้องชุดมือสองในใจกลางเมืองก็ยังพอมี

            อันดับที่ 7 ทำเล A2: บางขัน คลองหลวง โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 0.500-1.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 0.997 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 0.809 ล้านบาท หรือลดลงถึง -18.9% ถือว่าเป็นการลดราคาลงมาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เนื่องจากกำลังซื้อหดตัวฉับพลัน

            อันดับที่ 8 ทำเล G5: ลาดกระบัง โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 2.001-3.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 2.500 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 2.042 ล้านบาท หรือลดลงถึง -18.3% ถือว่าเป็นการลดราคาลงมาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เนื่องจากกำลังซื้อหดตัวฉับพลัน

            อันดับที่ 9 ทำเล E7: สุขาภิบาล 2-3 โดยเป็นสินค้าประเภท ตึกแถว ในระดับราคาประมาณ 5.001-10.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 8.563 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 7.047 ล้านบาท หรือลดลงถึง -17.7% กรณีนี้เป็นการตั้งราคาที่สูงเกินไปในช่วงก่อน และขายไม่ออก จึงต้องลงราคาลงมาเช่นนี้นี่เอง

            อันดับที่ 10 ทำเล E7: สุขาภิบาล 2-3 โดยเป็นสินค้าประเภท ทาวน์เฮาส์ ในระดับราคาประมาณ 2.001-3.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 3.591 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 2.978 ล้านบาท หรือลดลงถึง -17.1% กรณีนี้แสดงว่าทาวน์เฮาส์ที่ราคาสูงเกินจริงในพื้นที่ก็จำเป็นต้องลดราคาลงในที่สุด

            อันดับที่ 11 ทำเล N3: รัตนาธิเบศร์-ท่าอิฐ โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 2.001-3.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 2.834 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 2.362 ล้านบาท หรือลดลงถึง -16.7% ห้องชุดในพื้นที่นี้ล้นเกินมีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องลดราคาลงมาจูงใจผู้ซื้อนั่นเอง

            อันดับที่ 12 ทำเล N7: ลาดหลุมแก้ว โดยเป็นสินค้าประเภท บ้านแฝด ในระดับราคาประมาณ 2.001-3.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 3.563 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 3.000 ล้านบาท หรือลดลงถึง -15.8% กรณีนี้เป็นการตั้งราคาที่สูงเกินไปในช่วงก่อน และขายไม่ออก จึงต้องลงราคาลงมาเช่นนี้นี่เอง

            อันดับที่ 13 ทำเล G3: อ่อนนุช-ศรีนครินทร์ โดยเป็นสินค้าประเภท บ้านแฝด ในระดับราคาประมาณ 10.001-20.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 23.600 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 19.900 ล้านบาท หรือลดลงถึง -15.7% ราคาที่ตั้งไว้ในที่อยู่อาศัยประเภทนี้ค่อนข้างแพงเป็นพิเศษ จึงต้องลดราคาลงมาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง

            อันดับที่ 14 ทำเล C3: พิบูลสงคราม โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 3.001-5.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 5.132 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 4.368 ล้านบาท หรือลดลงถึง -14.9% กรณีนี้คงหวังผลจากรถไฟฟ้าแต่เนื่องจากมีอุปทานมาก ก็เลยต้องลงราคา

            อันดับที่ 15 ทำเล N5: ไทรน้อย-สุพรรณบุรี โดยเป็นสินค้าประเภท บ้านแฝด ในระดับราคาประมาณ 2.001-3.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 2.803 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 2.389 ล้านบาท หรือลดลงถึง -14.8% ในทำเลนี้ มีความคึกคักน้อย และตั้งราคาไว้สูงเกินไป จึงต้องลงราคามาบ้างตามสมควร

            อันดับที่ 16 ทำเล N6: ปทุมธานี-สามโคก โดยเป็นสินค้าประเภท ทาวน์เฮาส์ ในระดับราคาประมาณ 1.001-2.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 2.036 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 1.741 ล้านบาท หรือลดลงถึง -14.5% ในทำเลนี้ มีความคึกคักน้อย และตั้งราคาไว้สูงเกินไป จึงต้องลงราคามาบ้างตามสมควร

            อันดับที่ 17 ทำเล G4: ศรีนครินทร์-อุดมสุข โดยเป็นสินค้าประเภท บ้านแฝด ในระดับราคาประมาณ 10.001-20.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 13.893 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 11.893 ล้านบาท หรือลดลงถึง -14.4% เป็นกลุ่มบ้านราคาแพงที่ตั้งราคาไว้สูงเกินจริงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จึงต้องลดราคาลงมา

            อันดับที่ 18 ทำเล B3: แจ้งวัฒนะ โดยเป็นสินค้าประเภท บ้านเดี่ยว ในระดับราคาประมาณ 10.001-20.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 11.906 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 10.247 ล้านบาท หรือลดลงถึง -13.9% เป็นกลุ่มบ้านราคาแพงที่ตั้งราคาไว้สูงเกินจริงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จึงต้องลดราคาลงมา

            อันดับที่ 19 ทำเล A6: ลำลูกกา โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 0.500-1.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 1.146 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 0.990 ล้านบาท หรือลดลงถึง -13.6% กรณีนี้แสดงว่าผู้มีรายได้น้อยที่เป็นคนงานหมดความสามารถในการซื้อแล้ว จึงต้องลงราคามา

            อันดับที่ 20 ทำเล F3: โชคชัย 4 โดยเป็นสินค้าประเภท ห้องชุด ในระดับราคาประมาณ 2.001-3.000 ล้านบาท โดยราคา ณ เดือนธันวาคม 2562 เป็นเงินหน่วยละ 2.900 ล้านบาท แต่  ณ เดือนมิถุนายน 2563 หรือ 6 เดือนต่อมา ราคาลดลงเหลือ 2.509 ล้านบาท หรือลดลงถึง -13.5% การขายในสินค้าประเภทนี้ค่อนข้าวฝืด จึงต้องลดราคาลงมาจูงใจหาผู้ซื้อนั่นเอง

  นี่ขนาดแค่ 6 เดือนแรกยังลดขนาดนี้ ถ้าทั้งปีจะลดขนาดไหน ต้องติดตามที่ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย