มีอยู่ 10 ทำเลที่ราคาที่ดินแทบไม่ขึ้นเลยในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (2562-2563) อยู่ตรงไหนบ้าง ต้องรู้จะได้ไม่ไปหลงซื้อ (ยกเว้นซื้อได้ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยถึงราคาที่ดินต่อตารางวาที่ขนาดมาตรฐาน 4 ไร่ (กว้าง 40 เมตร ลึก 160 เมตร) โดยปรับเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะพบว่าทำเลที่ดินบางแห่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ราคาแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย แสดงว่าไม่ควรเก็งกำไร โดยมีรายละเอียดดังนี้:
อันดับที่ 1 ได้แก่ทำเล H8-4 บางนา-ตราด กม.24 ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 75,000 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 2.70% ที่เป็นเช่นนี้คงเป็นเพราะราคาค่อนข้างสูง และมีโทลเวย์ผ่านข้างบน ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ที่ดินบริเวณนี้มากนัก ประกอบกับในบริเวณใกล้มหาวิทยาลัยเอแบคก็มีอาคารชุดล้นตลาดมากอยู่แล้วในขณะนี้
อันดับที่ 2 ได้แก่ทำเล M1-4 พุทธมณฑลสาย 3 ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 56,000 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 3.70% ที่เป็นเช่นนี้คงเป็นเพราะราคาค่อนข้างสูง การพัฒนาจึงไปในบริเวณอื่นที่ราคาถูกกว่า และไปในบริเวณที่มีรถไฟฟ้าผ่านมากกว่าจะอยู่ในบริเวณนี้
อันดับที่ 3 ได้แก่ทำเล H6-2 แพรกษา กม.5 ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 27,000 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 3.80% ทั้งนี้เพราะบริเวณนี้เป็นเขตที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างน้อย ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ดี การพัฒนาอาคารชุดราคาถูกก็ทำไม่ได้มากเพราะขาดกำลังซื้อ ราคาที่ดินจึงเพิ่มไม่มากนัก
อันดับที่ 4 ได้แก่ทำเล H8-6 บางปู-คลองด่าน กม.3.5 ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 13,500 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 3.80% ในทำนองเดียวกับอันดับที่ 3 เพราะบริเวณนี้เป็นเขตที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างน้อย ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ดี การพัฒนาอาคารชุดราคาถูกก็ทำไม่ได้มากเพราะขาดกำลังซื้อ ราคาที่ดินจึงเพิ่มไม่มากนัก
อันดับที่ 5 ได้แก่ทำเล K4-2 เพชรเกษม-อ้อมน้อย ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 78,000 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 4.00% ในทำนองเดียวกับอันดับที่ 4 เพราะบริเวณนี้เป็นเขตที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างน้อย ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ดี การพัฒนาอาคารชุดราคาถูกก็ทำไม่ได้มากเพราะขาดกำลังซื้อ ราคาที่ดินจึงเพิ่มไม่มากนัก ยิ่งกว่านั้นบริเวณนี้เป็นที่ติดถนนใหญ่ การพัฒนาตึกแถวก็มีมากแล้ว
อันดับที่ 6 ได้แก่ทำเล N2-1 วงแหวนรอบนอก บางใหญ่ บางคูรัด ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 100,000 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 4.20% บริเวณนี้ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งปรากฏว่ามีโครงการอาคารชุดเป็นจำนวนมากที่ยังขายไม่ออก และที่ดินแปลงนี้มีราคาสูงมาก เพราะติดถนนใหญ่ จึงทำให้โอกาสการพัฒนามีจำกัด
อันดับที่ 7 ได้แก่ทำเล A5-2 รังสิต-นครนายก กม.37 (คลอง 14) ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 12,000 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 4.30% ที่ราคาไม่ขึ้น สาเหตุก็เพราะเป็นบริเวณที่อยู่ห่างไกลจากเขตความเจริญ ราคาที่ดินจึงค่อนข้างถูก และมีโอกาสการพัฒนาที่จำกัด
อันดับที่ 8 ได้แก่ทำเล E4-1 สุวินทวงศ์ กม.42 ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 24,000 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 4.30% ในทำนองเดียวกับทำเลที่ 7 ที่ราคาไม่ขึ้นในทำเลนี้ สาเหตุก็เพราะเป็นบริเวณที่อยู่ห่างไกลจากเขตความเจริญ ราคาที่ดินจึงค่อนข้างถูก และมีโอกาสการพัฒนาที่จำกัด
อันดับที่ 9 ได้แก่ทำเล H4-1 ปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 120,000 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 4.30% บนถนนปู่เจ้าสมิงพรายยังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านระหว่างอุตสาหกรรมและการพัฒนาในเชิงพาณิชย์อื่น และราคาที่ดินค่อนข้างสูงมาก โอกาสการซื้อขายจึงจำกัด ราคาจึงแทบไม่ขึ้น
อันดับที่ 10 ได้แก่ทำเล H9-1 บางนา-ตราด กม.36.3 ซึ่งมีราคาที่ดินตารางวาละ 49,000 บาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเพียง 4.30% คล้ายกับอันดับที่ 1 ที่เป็นเช่นนี้คงเป็นเพราะราคาค่อนข้างสูง และมีโทลเวย์ผ่านข้างบน ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ที่ดินบริเวณนี้มากนัก ประกอบกับในบริเวณใกล้มหาวิทยาลัยเอแบคก็มีอาคารชุดล้นตลาดมากอยู่แล้วในขณะนี้
อนึ่งศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยสำรวจราคาที่ดินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2537 โดยสำรวจทำเลต่างๆ ถึงประมาณ 350 ทำเลทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและในจังหวัดอื่นด้วย