ดร.โสภณขอเสนอนายกรัฐมนตรีให้มีดำริให้เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามมาตรฐานสากลกับอภิมหาเศรษฐี เฉพาะภาษีจากอภิมหาเศรษฐี 20 รายแรก ก็จะได้เงินภาษีมากพอที่จะแจกคนจนเป็นเงิน 5,000 บาท ได้ 4.2 ล้านคนเลย
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าในบรรดาเศรษฐีไทย 20 อันดับแรกนั้น หากนำทรัพย์สินทั้ง 20 กลุ่มนี้มารวมกัน จะมีมูลค่าสูงถึง 3,538,404 ล้านบาท หรือมากกว่างบประมาณแผ่นดินไทย พ.ศ.2563 ที่ 3.2 ล้านล้านบาท อยู่ถึง 11% เลยทีเดียว นับว่าอภิมหาเศรษฐีเหล่านี้มีทรัพย์สินมากมายสุดคณานับจริงๆ
ในที่นี้ไม่มีข้อมูลทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ระบุไว้ แต่หากสมมติว่าอภิมหาเศรษฐี 20 ท่านนี้มีทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 30% ของทรัพย์สินทั้งหมด อสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นก็ควรมีมูลค่าประมาณ 1,061,521 ล้านบาทหรือประมาณหนึ่งในสามของงบประมาณแผ่นดินไทย และหากอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นเสียภาษีตามมาตรฐานสากล เช่นในสหรัฐอเมริกา เสียประมาณ 1-3% ของมูลค่าตลาด โดยในที่นี้สมมติให้เสียที่ 2% ของมูลค่าตลาด ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่พึงเก็บได้จากอภิมหาเศรษฐี 20 รายนี้ ก็ควรเป็นเงินปีละประมาณ 21,230 ล้านบาท
ในขณะที่ประเทศชาติของเรามีปัญหารุมเร้าหนักจากโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งแม้จะไม่ร้ายแรงอะไร แต่ก็ทำให้เกิดความปริวิตกเป็นอย่างมาก จนกระทั่งรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือด้วยการแจกเงินบุคคลที่มีอาชีพอิสระหรือได้รับผลกระทบโดยตรงรายละ 5,000 บาท ดังนั้นเงินจำนวนนี้ จะสามารถแจกประชาชนได้ถึง 4,246,000 ราย หรือราวหนึ่งในสี่ของ 16 ล้านคนที่รัฐบาลคิดจะแจกตามเป้าหมาย
ระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจึงเป็นสิ่งที่ควรมีไว้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในประเทศ และผู้ได้เปรียบในสังคม ก็ควรแบ่งปันเพื่อคนที่เสียเปรียบ สังคมจะได้ไม่เกิดกลียุค คนรวยก็จะสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน