ดร.โสภณ ได้รับหนังสือจากมูลนิธิน้ำสะอาดเพื่อชีวิต ยืนยันว่าผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำ บริเวณรอบบ่อกักเก็บกากแร่ เหมืองทองอัครา จ.พิจิตร ผ่าน! สะอาด! นายกฯ ได้ข้อมูลเท็จมาตัดสินใจปิดเหมืองผิดๆ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะประธานเครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อมและประชาชนอย่างยั่งยืน ได้รับหนังสือจากนายชูชาติ รักษาวงศ์ ประธานมูลนิธิน้ำสะอาดเพื่อชีวิต เรื่องการตรวจสอบคุณภาพน้ำ บริเวณรอบบ่อกักเก็บกากแร่ เหมืองทองอัครา จ.พิจิตร
โดยเมื่อต้นปี 2561 หลังจากมูลนิธิฯ ได้ทราบข่าวเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนจากการทำเหมืองทองคำอัครา จ.พิจิตร ในเวลานั้นมูลนิธิฯ มีความประสงค์จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องสารปนเปื้อนในน้ำโดยการใช้แร่ไพโรลูไซด์ ซึ่งเป็นแร่ธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการกำจัดโลหะหนักที่ละลายอยู่ในน้ำ มูลนิธิฯ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจพื้นที่และเก็บตัวอย่างน้ำผิวดิน บริเวณแหล่งน้ำรอบบ่อกักเก็บกากแร่ เมืองทองอัครา หนองผักแว่น, หนองบัว, หนองน้ำซับ บ้านเขาดิน ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร, ป่าบอน บริเวณหลังบ่อกักเก็บน้ำเมืองทองคำของเหมืองทองอัครา และน้ำประปาหมู่บ้านวัดคีรีเทพนิมิต เพื่อนำตัวอย่างน้ำที่ได้มาตรวจสอบคุณภาพน้ำกับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด Central Laboratory (Thailand) Co.,Ltd. เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561
ทางบริษัทฯ ได้รายงานผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำตามตัวอย่างที่ส่งไป ผลปรากฏว่าหนองน้ำบริเวณรอบเหมืองทองพบสารปนเปื้อน Arsenic (As), Iron(Fe) และ Manganese(Mn) แต่มีปริมาณการปนเปื้อนเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นปริมาณที่พบได้ตามแหล่งน้ำทั่วไป ส่วนน้ำประปาหมู่บ้านไม่พบสารปนเปื้อนทั้ง 3 ชนิด ข้างต้น เพื่อประโยชน์ในทางวิชาการ นายชูชาติ รักษาวงศ์ ประธานมูลนิธิน้ำสะอาดเพื่อชีวิต จึงขอส่งเอกสาร รายงานผลการทดสอบคุณภาพน้ำ บริเวณรอบบ่อกักเก็บกากแร่เหมืองทองอัคราทั้ง 5 จุด (ดังมีรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย” ให้ ดร.โสภณ เพื่อไว้ใช้ประโยชน์ต่อชาวบ้านและชุมชนต่อไป)
การที่รัฐบาลประยุทธ์ปิดเหมืองทองคำโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ ชุมชนและบริษัทที่ได้รับสัมปททาน พล.อ.ประยุทธ์จึงควรชดใช้ค่าเสียหายเอง จะใช้งบประมาณแผ่นดินไม่ได้