ธนาคารโลกว่าเศรษฐกิจไทยแย่สุด ระวังอสังหาฯ จะพัง
  AREA แถลง ฉบับที่ 586/2563: วันพุธที่ 30 กันยายน 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            จากรายงานของบีบีซี “โควิด-19: ธนาคารโลกคาดสิ้นปีเศรษฐกิจไทยติดลบอย่างน้อย 8.3% ต่ำสุดในภูมิภาคอาเซียน ด้าน ครม.มีมติต่อ พ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปอีกหนึ่งเดือน” เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 แสดงให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยอาจจะพังทลายได้ในปี 2564 ทุกฝ่ายต้องระวัง

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) สรุปรายงานของธนาคารโลกว่า

            1. ธนาคารโลกคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเหมือนช่วงก่อนมีโรคระบาด

            2. เศรษฐกิจไทยจะเติบโตติดลบ 8.3% จากปีที่แล้ว แต่หากเป็นในระดับต่ำสุดจะติดลบ 10.4% ถือว่าต่ำที่สุดในภูมิภาคอาเซียน (ไม่รวมกับบรูไน) ส่วนเวียดนามถือว่าเป็นชาติที่สามารถรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ค่อนข้างดีในอัตราการเติบโตเป็นบวกคือ ในระดับพื้นฐานอยู่ที่ 2.8% จากปีก่อน ดังนั้นไทยจึงไม่อาจภูมิใจได้เลยว่าเป็นประเทศที่ติดเชื้อน้อยกว่าเพื่อน ในขณะที่เศรษฐกิจตกต่ำสุดขีดกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

            3. ไทยใช้งบเยียวยาสูงสุดในภูมิภาค โดยใช้ถึง 13% ของจีดีพี แต่ยังไม่ตรงจุดมากนัก แสดงว่าเงินกู้มากมายหลายล้านล้านบาทที่รัฐบาลไทยอ้างว่ามากู้เพื่อแก้วิกฤตินั้นเป็นการสร้างหนี้อย่างไม่มีประสิทธิผล ไม่มีประสิทธิภาพ และจะส่งผลร้ายแก่ประชาชนไทยในระยะยาว 

            4. ตามที่ ดร.สมคิดในอดีต และรัฐบาลประยุทธ์โดยรวมพยายามกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศโดยเฉพาะโครงการอีอีซี แต่กลับปรากฏว่า ครึ่งปีแรกการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนต่างชาติลดลง 34% นี่แสดงว่ารัฐบาลไม่สามารถกระตุ้นการลงทุนได้จริง สู้เวียดนามและอินโดนีเซียไม่ได้เลย

 

            ด้วยเหตุนี้ ดร.โสภณ จึงมีความเห็นว่าที่ประเทศไทยมีการฟื้นตัวข้างที่สุดก็เพราะ

            1.  ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากที่สุด เศรษฐกิจไทยขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวมาก ในเมื่อนักท่องเที่ยวแทบไม่เข้ามาใน 1-2 ปีนี้ ก็ยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่กว่าประเทศอื่น

            2.  การลงทุนจากต่างประเทศมีน้อยกว่าประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซียและเวียดนาม ทำให้ไม่สามารถสร้างงานได้เช่นประเทศอื่น หรือเช่นในอดีตของประเทศไทย

            3.  ประเทศไทยขาดการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีรัฐประหาร มีการเรียกร้องอันเนื่องจากมีรัฐประหาร จึงทำให้ประเทศมีปัญหาในสายตาของต่างประเทศ

            4.  การใช้จ่ายเงินอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ก่อหนี้เกินควร ทำให้ประเทศชาติไม่อาจฟื้นคืนได้ในเวลาที่สมควร

 

            ความเสื่อมทรุดทางเศรษฐกิจนี้ อาจทำให้เกิดหนี้เสียมากมายในอนาคตอันใกล้ อันเป็นการสั่นคลอนเสถียรภาพของสถาบันการเงินอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้เศรษฐกิจไทยซวดเซลง และทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เสื่อมทรุดลงตามภาวะเศรษฐกิจ  อย่างไรก็ตามตัวช่วยสำคัญอาจเป็นการลงทุนจากประเทศจีน ซึ่งทำให้ไทยกลายเป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจต่อประเทศจีนในระยะยาวได้

            ทุกฝ่ายพึงสังวร

 

อ้างอิง

รายงานของบีบีซี “โควิด-19: ธนาคารโลกคาดสิ้นปีเศรษฐกิจไทยติดลบอย่างน้อย 8.3% ต่ำสุดในภูมิภาคอาเซียน ด้าน ครม.มีมติต่อ พ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปอีกหนึ่งเดือน”. 29 กันยายน 2563. https://www.bbc.com/thai/thailand-54338090

 

อ่าน 4,970 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved