AREA แถลง ฉบับที่ 137/2555: 8 พฤศจิกายน 2555
พัทยา-ระยองต้องการสนามบินอู่ตะเภา
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
แม้จะมีสนามบินสุวรรณภูมิ แต่พัทยา-ระยองก็จำเป็นต้องมีสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินพาณิชย์นานาชาติเพื่อการพัฒนาประเทศโดยตรง
การมีสนามบินนานาชาติแห่งชาติ 3 สนามบินคือดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ เหตุผลในการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาได้แก่
1. สนามบินอู่ตะเภามีศักยภาพสูง เมื่อมีเหตุการณ์ไม่สงบยึดสนามบินสุวรรณภูมิในปี พ.ศ. 2551 สนามบินนี้ยังสามารถใช้เป็นสนามบินทดแทน-สำรองได้ นอกจากนั้นสนามบินนี้ยังมีพื้นที่ที่สามารถขยายตัวได้มาก การเวนคืนพื้นที่อื่นเพื่อสร้างสนามบินคงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยากกว่าการแปลงสนามบินแห่งนี้ให้เป็นสนามบินพาณิชย์นานาชาติ
2. สนามบินอู่ตะเภาตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์สำคัญที่สามารถเดินทางสู่จังหวัดหลักในภาคตะวันออกได้โดยสะดวก ตั้งแต่ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี
3. หากพิจารณาจากอสังหาริมทรัพย์ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน จำนวน 655,866 ล้านบาททั่วประเทศ เป็นอสังหาริมทรัพย์ในเขตจังหวัดชลบุรีและระยองถึง 14.6% หรือมากกว่าหนึ่งในสี่ของขนาดตลาดของกรุงเทพมหานคร และหากรวมจันทบุรี ขนาดตลาดอาจประมาณหนึ่งในสามของกรุงเทพมหานคร สมควรที่จะมีสนามบินเป็นของตนเอง
4. มูลค่าการขายอสังหาริมทรัพย์เฉพาะในเขตจังหวัดชลบุรีและระยอง มีมูลค่าถึง 94,531 ล้านบาท หรือเท่ากับค่าก่อสร้างสนามบินใหม่ 1 สนาม การนี้แสดงให้เห็นว่าอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นี้ขยายตัวมากกว่าจังหวัดอื่นที่มีสนามบินอย่างมากมาย เช่น หากเทียบกับนครราชสีมา ชลบุรี-ระยอง มีขนาดตลาดอสังหาริมทรัพย์ใหญ่กว่าถึง 16 เท่า ใหญ่กว่าสุราษฎร์ธานี 24 เท่า ใหญ่กว่านครศรีธรรมราช 29 เท่า ใหญ่กว่าอุดรธานี และพิษณุโลก 37 เท่า ดังนั้นจึงควรมีสนามบินเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
5. ท่าเรือน้ำลึกทวายของประเทศพม่า อาจมีขนาดใหญ่กว่ามาบตาพุดของไทยถึง 10 เท่า และยังมีสนามบิน ดังนั้นเพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันกับสากลได้ สนามบินมาบตาพุดจำเป็นต้องเป็นสนามบินนานาชาติ
6. ความมั่นคงของชาติมาจากความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ความมั่นคงทางทหารหรือหน่วยทหาร ดังนั้นหากประเทศไทยมุ่งเน้นความสำคัญของความมั่นคงของชาติจึงจำเป็นต้องขยายสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่
7. การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินแห่งชาติแห่งที่ 3 นั้น จะทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันยิ่งสูงขึ้น จะยิ่งเป็นศูนย์กลางทางบินของภูมิภาคอาเซียนมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติอาจมีข้อขัดข้องหลายประการ ที่จำเป็นต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ให้ร่วมมือกับพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติแห่งชาติสนามบินที่ 3 ของประเทศไทย เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศในระยะยาว
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน |