ประชากรใกล้โรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มต่อเนื่อง มลพิษไม่มีจริง
  AREA แถลง ฉบับที่ 798/2563: วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม 2563

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            พวก NGOs มักจะอ้างว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะมีมลพิษสารพัด ทั้งที่หลายต่อหลายคนก็ไปพิสูจน์มาแล้วว่าไม่จริง แต่ก็ยังมีการใช้วาทกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง บางคนกลัวว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ในความเป็นจริง ประชากรตามบริเวณใกล้โรงไฟฟ้าถ่านหินกลับไม่ได้ลดลงตามอ้าง

            ผมในฐานะกรรมการในคณะกรรมการกำกับการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้ (Strategic Environmental Assessment) ได้ฟังพวก NGOs และเหล่าผู้ต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินใช้วาทกรรมเดิมๆ เรื่องมลพิษจากโรงไฟฟ้า ในพื้นที่เหล่านี้มีผู้ไปพิสูจน์กันมามากมายแล้วว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินทั้ง 2 พื้นที่ไม่ได้ก่อมลพิษดังที่กล่าวอ้าง แต่พวก NGOs ก็ยังพูดเป็นในลักษณะ “แผ่นเสียงตกร่อง” อยู่ร่ำไป กลายเป็นวาทกรรมใส่ร้ายไม่รู้จบ 

            ผมจึงขออนุญาตพิสูจน์ โดยสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินมีมลพิษหรือไม่ ก็ดูได้จากจำนวนประชากรในพื้นที่ในฐานะที่เป็นประจักษ์หลักฐาน หรือเป็น Hard Facts ที่ชัดเจนที่สุด ถ้าประชากรเพิ่มขึ้น ไม่ได้ลดลง ก็แสดงว่าไม่มีมลพิษ แต่ถ้าประชากรลดลง ก็อาจแสดงว่ามีปัญหาในพื้นที่เพราะประชาชนคงอยู่ไม่ได้เนื่องจากมลพิษนั่นเอง เรามาดูการเปลี่ยนแปลงประชากรในพื้นที่ที่มีโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 แห่ง คือที่จังหวัดระยอง และที่เหมืองแม่เมาะ ลำปาง ดูว่าข้อมูลประชากรเป็นอย่างไรบ้าง

 

 

            พื้นที่ๆ จะมาพิสูจน์กันมีดังนี้:

            1. ที่จังหวัดระยองมีโรงไฟฟ้าอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ บจก.เก็คโค-วัน โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี และโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี ตั้งอยู่ในเขตมาบตาพุตและอำเภอเมืองระยอง มีเขตการปกครองที่โรงไฟฟ้าเหล่านี้ตั้งอยู่ 2 แห่งคือ เทศบาลนครระยอง และเทศบาลเมืองมาบตาพุด

            2. ที่จังหวัดลำปางที่มีโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ที่อำเภอแม่เมาะ มีเทศบาลตำบลแม่เมาะตั้งอยู่ และยังมีพื้นที่ในตำบลอื่นในอำเภอแม่เมาะตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน

 

            จากข้อมูลประชากรชี้ให้เห็นว่า ในกรณีจังหวัดระยองพบว่าในเขตเทศบาลเมืองระยอง มีประชากร ณ สิ้นปี 2552 อยู่ 59,262 คน แต่ ณ สิ้นปี 2562 มี 63,565 คน หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นปีละ 0.7% โดยเฉลี่ย  ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นของประชากรทั่วประเทศที่ 0.47%  ยิ่งในกรณีเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดที่มีทั้งนิคมอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าตั้งอยู่ ก็ปรากฏว่า อัตราเพิ่มของประชากรสูงถึง 3.49% ต่อปีในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

            และหากรวมเทศบาลทั้งสองแห่งนี้คือเทศบาลนครระยอง และเทศบาลเมืองมาบตาพุดเข้าด้วยกันเพราะอยู่ติดกัน จะพบว่าจำนวนประชากรของทั้งสองเทศบาล เพิ่มจาก 109,447 คน ณ สิ้นปี 2552 เป็น 134,279 คน ณ สิ้นปี 2562 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 2.07% ต่อปีโดยเฉลี่ย  ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งจังหวัดระยองที่มีอัตราเพิ่มที่ 1.84% ต่อปี  ประชากรไหล่บ่าเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่นี้ทั้งที่คนภายนอกเข้าใจผิดว่ามีมลพิษมากมาย

            ส่วนที่อำเภอแม่เมาะที่เป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าแม่เมาะนั้น ปรากฏว่าจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นจาก 23,303 คน ณ สิ้นปี 2552 เป็น 24,328 คน ณ สิ้นปี 2562 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.43% ต่อปีในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา  แสดงว่าโรงไฟฟ้าไม่ได้สร้างปัญหาให้กับชุมชนดังที่เข้าใจ  ในรายละเอียดของอำเภอแม่เมาะนั้นพบว่ามีเพียงตำบลจางเหนือที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากโรงไฟฟ้าที่สุดที่มีประชากรลดลงปีละ -0.03% หรือแทบจะไม่ลดเลย ทั้งนี้คงเป็นเพราะเป็นตำบลในถิ่นที่ทุรกันดารกว่าที่อื่น

            ส่วนที่ตัวเทศบาลตำบลแม่เมาะนั้น ประชากรลดลงปีละ -0.42%  แต่การนี้คงเป็นเพราะเป็นพื้นที่จัดสรรที่ดินขึ้นมาใหม่  โอกาสขยายตัวจึงจำกัด ประชากรจึงไปขยายตัวในตำบลอื่นแทน  และในพื้นที่โดยรอบ ประชากรลดลง โดยในจังหวัดลำปางโดยรวมลดลงปีละ -0.35% ซึ่งก็พอๆ กับที่เทศบาลตำบลแม่เมาะ  ยิ่งกว่านั้นในจังหวัดโดยรอบ คือ อุตรดิตถ์ แพร่ พะเยา ประชากรก็ลดลงปีละ -0.21% -0.45% และ -0.31% ตามลำดับ มีเพียงเชียงใหม่ที่มีประชากรเพิ่มขึ้นปีละ 0.86% และจังหวัดน่าน และเชียงราย ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ประชากรเพิ่มขึ้น  การสูญเสียจำนวนประชากรในจังหวัดเล็กๆ ให้กับจังหวัดหรือเมืองขนาดใหญ่ในภูมิภาคเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติ จึงไม่อาจสรุปได้ว่ามลพิษจากโรงไฟฟ้า ทำให้ประชากรลดลง

            การที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้น หรือไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในพื้นที่โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันเช่นนี้ จึงเป็นประจักษ์หลักฐานที่ชัดเจนว่า โรงไฟฟ้าไม่ได้ก่อให้เกิดมลพิษจนทำให้ประชาชนไม่สามารถอยู่ได้ หรือไม่ประสงค์ที่จะอยู่อย่างปกติสุขในพื้นที่ได้ เราจึงควรสร้างความมั่นให้กับประชาชนในความปลอดภัยของโรงไฟฟ้า ยิ่งในกรณีโรงไฟฟ้ายุคใหม่ที่เน้นถ่านหินบิทูมินัสและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการดักจับมลพิษ ประชาชนจึงยิ่งมีความมั่นใจได้มากขึ้น

            สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยด่วนเถอะ ประชาชนจะได้ใช้ไฟราคาถูก ประเทศชาติจะได้เจริญ มีโอกาสสร้างจรวดไปดวงจันทร์เสียที!!!

อ่าน 2,526 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved