จากผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถึง 2,600 โครงการของศูฯย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ปรากฏว่า มีทำเลเด่นๆ แห่งอนาคตสำหรับบ้านแนวราบคือบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์เฮาส์ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลฯ จึงได้เปิดเผยเพื่อการวางแผนซื้อบ้านหรือลงทุนพัฒนาโครงการ ดังนี้:
บ้านเดี่ยว: มีทำเลบ้านเดี่ยวยอดฮิตแห่งอนาคตอยู่หลากหลาย แต่ส่วนมากอยู่ย่านชานเมืองหรือเขตต่อเมืองเป็นสำคัญ เป็นย่านที่เดินทางเข้าใจกลางกรุงเทพมหานครได้สะดวกด้วยระบบขนส่งมวลชนหรือถนนที่ดี
A4: รังสิต คลอง 1-7 ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 6,227 หน่วย รวมมูลค่า 25,829 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 4.15 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 3,991 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 2,236 หน่วย ทำเลนี้มีการเปิดตัวมากเป็นพิเศษ แสดงว่ามีความต้องการสูง ข้อดีของทำเลนี้ก็คือ มีความเจริญเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็น Bed City สำหรับคนทำงานในกรุงเทพมหานคร
D5: วัชรพล คู้บอน ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 20 หน่วย รวมมูลค่า 123 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 6.15 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 17 หน่วย ยังหลืออยู่เพียง 3 หน่วย มีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 17.0% มีอัตราการขายที่ดีมาก น่าจะยังมีความต้องการอีกเป็นอันมาก อาจกล่าวได้ว่าเป็นทำเลที่เหมาะสมสำหรับการสร้างบ้านเดี่ยวราคาค่อนข้างสูงเพราะอยู่ไม่ไกลเมือง
E1: หทัยราษฎร์ ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 3,657 หน่วย รวมมูลค่า 25,981 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 7.10 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 2,734 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 923 หน่วย ทำเลนี้มีการเปิดตัวมากเป็นพิเศษ แสดงว่ามีความต้องการสูง เป็นทำเลที่อยู่ในเขตต่อเมือง ความต้องการบ้านระดับราคาค่อนข้างสูงจึงมีอยู่มาก
J2: ประชาอุทิศ ธนบุรี ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 39 หน่วย กลุ่มนี้สามารถขายได้แล้ว 39 หน่วย หรือขายหมดแล้ว มีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 16.7% มีอัตราการขายที่ดีมาก น่าจะยังมีความต้องการอีกเป็นอันมาก ในกรุงเทพมหานครมีเพียงทำเลนี้ที่ยังสามารถสร้างบ้านเดี่ยวในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทได้ เพียงต้องฝ่าการจราจรข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น
M1: ตลิ่งชัน ระดับราคา >20.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 1,372 หน่วย รวมมูลค่า 44,770 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 32.63 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 1,066 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 306 หน่วย ทำเลนี้มีการเปิดตัวมากเป็นพิเศษ แสดงว่ามีความต้องการสูง เป็นทำเลยอดฮิตสำหรับบ้านเดี่ยวราคาแพง เพราะอยู่ใกล้ใจกลางเมืองมากเป็นพิเศษ
N1: พระราม 5 - บางกรวย ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 2,491 หน่วย รวมมูลค่า 20,840 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 8.37 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 1,820 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 671 หน่วย ทำเลนี้มีการเปิดตัวมากเป็นพิเศษ แสดงว่ามีความต้องการสูง ทำเลนี้มีถนนที่มีคุณภาพดี บ้านเดี่ยวราคาค่อนข้างสูงจึงสามารถเปิดได้มากเป็นพิเศษ
N3: รัตนาธิเบศร์ - ท่าอิฐ ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 3,381 หน่วย รวมมูลค่า 22,703 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 6.71 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 1,913 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 1,468 หน่วย ทำเลนี้มีการเปิดตัวมากเป็นพิเศษ แสดงว่ามีความต้องการสูง บริเวณนี้มีทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วงและถนนที่มีคุณภาพสูงเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก จึงมีบ้านเดี่ยวราคาค่อนข้างสูงเกิดขึ้นมาก
บ้านแฝด: ทำเลคุณภาพสำหรับบ้านแฝด มีเพียง 2 บริเวณคือ D1: สายไหม และ J2: ประชาอุทิศ ธนบุรี ซึ่งตั้งอยู่คนละมุมเมืองไปเลย
D1: สายไหม ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 30 หน่วย รวมมูลค่า 144 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 4.80 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 9 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 21 หน่วย มีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 30.0% ถือเป็นทำเลที่ขายดีมากเป็นพิเศษและน่าสนใจเปิดตัวเพิ่มเป็นอย่างมาก สายไหม แม้จะไกลจากเมือง แต่มีโครงการตัดถนนและรถไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียง จึงได้รับความนิยมโดยเฉพาะกรณีบ้านแฝด
J2: ประชาอุทิศ ธนบุรี ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 44 หน่วย รวมมูลค่า 409 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 9.30 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 32 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 12 หน่วย มีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 18.2% มีอัตราการขายที่ดีมาก น่าจะยังมีความต้องการอีกเป็นอันมาก ทำเลนี้เหมาะสำหรับบ้านแฝดราคาค่อนข้างสูง เพราะอยู่ใกล้ใจกลางเมืองมาก ถือเป็นทำเลทางเลือกที่ไม่ต้องออกนอกเมือง
ทาวน์เฮาส์: ทำเลทาวน์เฮาส์ยอดฮิต เป็นทำเลที่อยู่ในย่านนนทบุรีแห่งหนึ่งคือ C3: พิบูลสงคราม แต่ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครแถวบางนา ประกอบด้วย G2: พัฒนาการ พระโขนง G4: ศรีนครินทร์ – อุดมสุข H3: ศรีนครินทร์ (แมคโคร) และ H7: บางปู สมุทรปราการ ดังนี้:
C3: พิบูลย์สงคราม นนทบุรี ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 247 หน่วย กลุ่มนี้สามารถขายได้แล้ว 217 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 30 หน่วย มีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 12.9% มีอัตราการขายที่ดีมาก น่าจะยังมีความต้องการอีกเป็นอันมาก บริเวณนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพมหานคร อยู่ในเขตต่อเมืองที่ใกล้ที่สุด และยังมีระบบขนส่งมวลชนที่ดี จึงเป็นที่นิยมสูง
G2: พัฒนาการ พระโขนง ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 446 หน่วย กลุ่มนี้สามารถขายได้แล้ว 355 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 91 หน่วย มีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 17.9% มีอัตราการขายที่ดีมาก น่าจะยังมีความต้องการอีกเป็นอันมาก ย่านพัฒนาการ พระโขนงนี้อยู่ใกล้ใจกลางเมืองมากที่สุด จึงสามารถสร้างทาวน์เฮาส์ที่มีคุณภาพดีได้และขายดีมาก
G4: ศรีนครินทร์ - อุดมสุข ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 158 หน่วย รวมมูลค่า 431 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.73 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 158 หน่วย หรือขายหมดแล้ว มีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 50.0% ถือเป็นทำเลที่ขายดีมากเป็นพิเศษและน่าสนใจเปิดตัวเพิ่มเป็นอย่างมาก โอกาสที่จะสร้างทาวน์เฮาส์ราคาปานกลางค่อนข้างถูกมีจำกัดเพราะราคาที่ดินแพง ทำให้โครงการที่สามารถทำได้ ได้รับความนิยมสูงมาก
H3: ศรีนครินทร์ (แมคโคร) ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 76 หน่วย รวมมูลค่า 197 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.59 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 55 หน่วย ยังหลืออยู่อีก 21 หน่วย มีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 24.1% มีอัตราการขายที่ดีมาก น่าจะยังมีความต้องการอีกเป็นอันมาก ในย่านศรีนครินทร์ที่มีโครงการระบบขนส่งมวลชนที่ดีในอนาคต ทำให้มีความต้องการทาวน์เฮาส์ระดับราคาปานกลางนี้เป็นอย่างมาก
H7: บางปู สมุทรปราการ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาทต่อหน่วย มีทั้งหมด 100 หน่วย รวมมูลค่า 230 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.30 ล้านบาท สามารถขายได้แล้ว 100 หน่วย หรือขายหมดแล้ว มีอัตราการขายต่อเดือนสูงถึง 50.0% ถือเป็นทำเลที่ขายดีมากเป็นพิเศษและน่าสนใจเปิดตัวเพิ่มเป็นอย่างมาก ด้วยอานิสงส์ของระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้าสายสีเขียว) จึงทำให้บางปูเป็นแหล่งทาวน์เฮาส์ราคาปานกลางนี้
ทำเลเหล่านนี้ยังคงจะเป็นที่นิยมอีกนานเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก ทำเลที่เพิ่มเข้ามากส่วนมากมักจะเกาะไปตามแนวรถไฟฟ้าหรือถนนที่มีคุณภาพ