ตามที่มีข่าวว่าพรรคก้าวไกลหนุนพวกกฎหมู่จะนะที่คัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ดร.โสภณฟันธงว่าพรรคก้าวไกล ก้าวผิดไปแล้ว ขอให้ถอนตัวโดยรีบด่วน

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ให้ความเห็นว่าการที่พรรคก้าวไกลไปหนุนฝ่ายที่คัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ถือเป็นการก้าวผิดอย่างแน่นอน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้สร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้  พรรคก้าวไกลที่มีอนาคตที่ดี มีคนหนุ่มสาวและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ อย่าหลงไปกับพวกกฎหมู่ที่คัดค้านโดยไร้เหตุผล

            ประเด็นที่ควรพิจารณาก็คือ

            1. ที่ว่ามีกลุ่มผลประโยชน์กว้านซื้อที่ดินเพื่อตนเองนั้น พรรคก้าวไกลหรือผู้ที่คัดค้านควรนำหลักฐานมาแสดง ไม่ควรพูดส่งเดช เพราะเป็นการใส่ร้าย ใส่ไคล้โดยขาดเหตุผลและใช้อารมณ์พาไป

            2. การมีนิคมอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ ต้องดูได้จากความสำเร็จของระยอง ว่าทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง

            3. กรณีที่กลัวว่าจะมีมลพิษ ในกรณีจังหวัดระยองพบชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริง จากสถิติการเจ็บป่วยต่างๆ โดยตรวจสอบข้อมูลการเสียชีวิตจากโรคที่อาจเกี่ยวข้องกับมลพิษข้อมูล ซึ่งเป็นจากกระทรวงสาธารณสุขในท้องที่จังหวัดระยอง เทียบกับทั่วประเทศ และกรุงเทพมหานคร ซึ่งพบว่าอัตราการเสียชีวิตต่อประชากร 100,000 คนนั้น มีน้อยมากในจังหวัดระยอง ไม่ว่าจะเป็นโลหิตเป็นพิษ เนื้องอก โรคเลือดและอวัยวะสร้างเลือด และความผิดปกติเกี่ยวกับกลไกของภูมิคุ้มกัน โรคทางจิตเวชและความผิดปกติของพฤติกรรม ความดันโลหิตสูง โรคของทางเดินระบบหายใจ และโรคของระบบกล้ามเนื้อกระดูกและเนื้อเยื่อประสาน (https://bit.ly/2Y9cOJ7)

 

            4. กรณีที่กลัวจะทำให้การท่องเที่ยวเสียหาย ก็ปรากฏว่าขนาดที่ระยองมีโรงไฟฟ้าถ่านหิน มีอุตสาหกรรมหนักมากมาย แต่กลับมีโรงแรมและที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเป็นมหาศาลในแต่ละปี (https://bit.ly/2Y9cOJ7)

            5. พรรคก้าวไกลควรตระหนักว่าการที่ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ อยู่ดีกินดี ก็จะแก้ไขปัญหาความมั่นคงได้เป็นอย่างดี

            ประเด็นสำคัญก็คือ พวกที่คัดค้านมักจะคัดค้านโดยไร้เหตุผลเท่าที่ควร เป็นคนนอกพื้นที่ ดร.โสภณ จึงเสนอให้พรรคก้าวไกลร่วมกับท้องถิ่นจัดการลงประชามติแบบง่ายๆ โดยนัดวัดลงประชามติ ณ สนามกีฬากลาง และเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมลงประชามติดูว่าระหว่างฝ่ายสนับสนุนโรงไฟฟ้า ฝ่ายค้าน และฝ่ายเป็นกลาง ฝ่ายไหนมากกว่ากันโดยมีผู้บริหารท้องถิ่นเป็นสักขีพยาน และพรรคก้าวไกลก็ส่งเสริมให้รัฐบาลทำตามความเห็นของคนส่วนใหญ่ตามหลักประชาธิปไตย  ส่วนหากมีฝ่ายใดจะได้รับความเสียหายจากการมีนิคมอุตสาหกรรม พรรคก้าวไกลก็อาจช่วยเรียกร้องสิทธิของประชาชนได้ตามสมควรต่อไป

            พรรคก้าวไกลอย่าให้พวกกฎหมู่ซึ่งมักเป็นคนอกพื้นที่แต่คัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะหลอกโดยเด็ดขาด