วันหยุดยิ่งมาก ประชาชนยิ่งจน แต่รัฐบาลกลับมองว่ายิ่งหยุดยิ่งดี เพื่อช่วยเหลือนายทุนโรงแรมต่างๆ เผื่อจะได้เจือจานรายได้มาช่วยพนักงานโรงแรมหรือสถานบันเทิงต่างๆ บ้าง
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าในปี 2564 นี้มีวันหยุดราชการรวมๆ กันแล้วประมาณ 21 วันทำงาน และยังมีวันหยุดตามภาคต่างๆ อีก 4 ภาค ก็เท่ากับวันทำงานของข้าราชการ 1 เดือน (ไม่รวมวันหยุดราชการ) แสดงว่าข้าราชการทำงาน 11 เดือน ได้เงินเดือน 12 เดือน และอาจมีแถมโบนัสให้อีก 1 เดือน ยิ่งถ้าเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจยังอาจได้โบนัส 2-5 เดือนอีกต่างหาก
ในทางตรงกันข้ามประชาชนโดยเฉพาะที่ยากจน หาเช้ากินค่ำ ต้องทำมาหากินด้วยการขายของ เช่นแม้ค้าข้างถนน หรือร้านอาหารตามสั่งทั่วไปก็อาจยากจนลง เนื่องจากข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและพนักงานภาคเอกชนหยุดงาน จึงมีวันเหลือขายของน้อยลง รายได้ก็จะลดลง แต่หนี้สินต่างๆ ก็ยังเหมือนเดิม ต่างจากข้าราชการที่สามารถทำงานที่บ้านได้ (ทำจริงหรือไม่ ประชาชนก็ไม่สามารถตรวจสอบได้) และแม้สถานการณ์โควิด-19 นี้ ก็ยังได้รับเงินเดือนเหมือนเดิม และบางส่วนอาจได้เพิ่มขึ้นอีก ในขณะที่ประชาชนทั่วไปยากจนลง จะสังเกตได้ว่าร้านค้าในส่วนราชการต่างๆ ต้องปิดตัวเองลงไปมาก เพราะข้าราชการทำงานที่บ้าน มาทำงานเพียงหนึ่งในสามบ้าง ทำให้ร้านค้าไม่สามารถอยู่ได้
ดร.โสภณ มีความเห็นว่า
1. ถ้าสถานการณ์ไม่ดี ก็ควรที่จะลดเงินเดือนข้าราชการลงบ้าง
2. ไม่ควรมีวันหยุดตามภาคหรือวันหยุดพิเศษใดๆ
3. สำหรับวันสำคัญทางศาสนา ก็ให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องและต้องการจะลาไปปฏิบัติศาสนกิจ เช่น ไปทำบุญที่วัด แล้วกลับเข้ามาทำงานในช่วงสายหน่อย โดยไม่ถือเป็นการลา
4. ควรให้ข้าราชการสลับมาทำงานในวันหยุดราชการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการติดต่อราชาการ โดยไม่ต้องมีเบี้ยเลี้ยงเพิ่มเติม แต่เป็นการสลับวันหยุด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก เป็นต้น
อย่าลืม “วันหยุดยิ่งมาก ประชาชนยิ่งจนลง”