ตามที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวในต้นปี 2565 ดร.โสภณ ฟันธงว่าถ้าเป็นเช่นนั้นธุรกิจไทยคงตายหมด และตอนนั้นประเทศและธุรกิจไทยคงถูกจักรวรรดินิยมจีนไล่ซื้อไปหมดแล้ว
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ให้ความเห็นว่าการเปิดแหล่งท่องเที่ยวไทย ไม่จำเป็นต้องรอถึงต้นปีหน้า (2565) สามารถทำได้ตอนนี้เลย อย่าได้วิตก มีตัวอย่างมากมายในหลายประเทศที่สามารถเปิดประเทศได้ โปรดดูได้ในเว็บไซต์นี้ https://www.tripsguard.com/
ดร.โสภณยกตัวอย่างให้เห็นว่า มีประเทศต่างๆ สามารถเปิดการท่องเที่ยวได้แล้ว หรืออนุญาตให้ต่างชาติเดินทางเข้าออกได้แล้ว ไม่ต้องเกรงการกักตัวแต่อย่างใด เช่น มัลดีฟส์ก็อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศ แต่ต้องฉีดวัคซีนล่วงหน้าไม่เกิน 96 ชั่วโมง และร้านอาหารและบาร์ในประเทศก็ยังเปิดให้บริการอยู่ นักท่องเที่ยวที่ไปมัสดีฟส์หายไปมาก ในปี 2563 เหลือเพียงหนึ่งในสามของปี 2562 แต่ก็ยังดีกว่าภูเก็ต สมุยของไทยที่แทบไม่มีใครไปท่องเที่ยวเลย
ที่สาธารณรัฐโดมินิกันในทะเลแคริเบียน และในประเทศอื่นๆ ทุกประเทศในทะเลแคริเบียนก็ต้อนรับนักท่องเทียวอย่างเต็มที่เช่นกัน ชาวอเมริกันก็เดินทางไปเป็นจำนวนมาก ในร้านอาหารก็เปิดกันอย่างเต็มที่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งนี้แม้ประเทศเหล่านี้ยังมีผู้ติดเชื้อมาก โดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยการฉีดวัคซีนกันอย่างขนาดใหญ่และทั่วถึง ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวมั่นใจได้มากขึ้น
ดร.โสภณให้ข้อคิดว่า
1. หากไม่ดำเนินการตอนนี้ ในอนาคตไทยอาจหมดเสน่ห์เพราะถูกต่างชาติแย่งชิงนักท่องเที่ยวไปหมด และคงดึงกลับมาไทยแน่ๆ
2. ไม่ต้องกลัวคนไทยติดเชื้อ เราสามารถจำกัดบริเวณนักท่องเที่ยวได้
3. ไม่ต้องกลัวนักท่องเที่ยวไม่มาไทย ในต่างประเทศสาหัสกว่านี้เสียอีก ยังสามารถเปิดประเทศได้
การเปิดท่องเที่ยวนั้น เราอาจเริ่มต้นที่ภูเก็ต สมุย ซึ่งเป็นพื้นที่เกาะสามารถดูแลต่างๆ ได้ง่ายกว่าก่อน แล้วค่อยๆ เปิดในพื้นที่อื่น ทั้งนี้รัฐบาลอาจระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ท่องเที่ยวก่อน และให้พื้นที่เหล่านี้ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด ก็จะสามารถสกัดโควิดและต้อนรับนักท่องเที่ยว ทำให้ประเทศชาติเรามีการพัฒนา เศรษฐกิจก็จะเติบโตต่อไปโดยไม่ต้องขาย (แผ่นดินให้ต่าง) ชาติ
มีวิสัยทัศน์ ใจกล้าๆ เปิดประเทศไปเลย