ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

          ดัชนีชี้เป็นชี้ตายเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ ก็คือ ราคาที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกานั่นเอง เพราะเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดของสุขภาวะของเศรษฐกิจอเมริกาซึ่งเป็นตัวเหนี่ยวนำสำคัญของเศรษฐกิจโลก ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ AREA ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกามาอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ องค์กรการเงินเคหการแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Housing Finance Agency) เพิ่งเปิดเผยผลการติดตามการเปลี่ยนแปลงราคาที่อยู่อาศัยไตรมาสที่ 1/2552 ศูนย์ข้อมูลฯ AREA จึงขอนำเสนอไว้ในที่นี้
          ในรอบไตรมาสที่ 1/2552 ราคาที่อยู่อาศัยทั่วสหรัฐอเมริกามีราคาลดลง 0.5% นับแต่ช่วงสิ้นเดือนธันวาคม 2551 ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2552 นับว่าเป็นอัตราการลดลงที่ต่ำที่สุด เพราะเมื่อไตรมาสที่ 4/2551 ราคาที่อยู่อาศัยทั่วสหรัฐอเมริกาลดลงถึง 3.3%
          อาจกล่าวได้ว่าราคาที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาเริ่มตกต่ำลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2550 และต่อเนื่องมาทุกไตรมาส จนถึงไตรมาสที่ 1/2552 เป็นจำนวนถึง 7 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว ช่วงไตรมาสที่ตกต่ำในอัตราสูงสุดก็คือไตรมาสที่ 4/2551 นั่นเอง เชื่อว่าในไตรมาสที่ 2/2552 ราคาที่อยู่อาศัยอาจเริ่มเป็นบวกแล้ว เว้นแต่เกิดความผิดพลาดในเชิงนโยบายบางประการ ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดกันต่อไป
          สำหรับในรายละเอียดของการเปลี่ยนแปลงราคาที่อยู่อาศัย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2552 นั้นพบว่า ราคายังตกต่ำลงประมาณ 1.1% แต่มีข้อน่าสังเกตว่า กลุ่มรัฐที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกที่แต่เดิมตกต่ำมากกว่ากลุ่มรัฐอื่น ๆ แต่ในเดือนมีนาคม 2552 นี้กลับตกต่ำลงน้อยกว่ารัฐทางแถบภูเขาแถบตะวันตกของประเทศและกลุ่มรัฐนิวอิงแลนด์ทางตะวันออกของประเทศ
          ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (ไตรมาสที่ 1/2551 – ไตรมาสที่ 1/2552) มลรัฐ 4 แห่งคือ อลาสกา โอกลาโฮมา นอร์ทดาโกตา และเซาท์ดาโกตา ยังมีการเติบโตของของราคาที่อยู่อาศัยจากทั้งหมด 50 รัฐ ซึ่งทั้งหมดอยู่ทางตอนกลางของประเทศสำหรับมลรัฐที่มีการหดตัวของราคาที่อยู่อาศัยสูงสุดในห้วงเวลาเดียวกัน ก็คือ แคลิฟอร์เนียซึ่งมีราคาที่อยู่อาศัยหดตัวลงถึง 22.12% ฟลอริดา (22.46%) และเนวาดา (31.1%) หรือลดลงเหลือเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น
          ในรอบปีที่ผ่านมา เมืองเมอร์เซด (Merced) ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย มีราคาตกต่ำสุดถึง 37.8% ใน 5 อันดับแรกของเมืองที่มีราคาตกต่ำสุดพบว่า 4 เมืองล้วนอยู่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้แก่ เมืองสต็อคโฮม (31.2%), โมเดสโต (29.41%) และวาเลโจ-แฟร์ฟิลด์ (29.21%) ตามลำดับ ส่วนอีกเมืองหนึ่งคือนครลาสเวกัส ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเนวาดา ราคาตกต่ำลงถึง 29.52% เช่นกัน อาจกล่าวได้ว่าใน 10 เมืองแรกที่ราคาตกต่ำสุด มีถึง 6 เมืองอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
          อาจกล่าวได้ว่าราค่าที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกากำลังจะเริ่มเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้ ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่ในกรณีที่ยังไม่อาจด่วนสรุปว่าจะเกิดผลดีต่อประเทศไทย เพราะผลกระทบคงไม่เกิดขึ้นรวดเร็วเช่นในสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ในฐานะศูนย์ข้อมูล-วิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินที่มีฐานข้อมูลภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุด ได้รับ ISO 9001-2008 ทั้งระบบแห่งแรกในฐานะที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ได้รับรางวัลจรรยาบรรณดีเด่น และเป็นสมาชิก UN Global Compact อีกด้วย