ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแนะนำให้ประชาชนสวดมนต์ต้านพายุ แสดงถึงความไม่รู้เรื่องพายุของนายกฯ ดร.โสภณ จึงมาขอให้ข้อมูล
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวว่าตามที่นายกฯ ได้ออกมาพูดเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2564 ในขณะเยี่ยมประชาชนที่จังหวัดสุโขทัยนั้น ท่านอาจได้ข้อมูลคลาดเคลื่อน ดร.โสภณ จึงขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม
1. ท่านนายกฯ บอกว่าพายุปี 2563 เข้ามา 5 ลูก ปีนี้เข้ามาลูกเดียว กรณีนี้ท่านเข้าใจผิด ปีที่แล้วมีพายุเพียง 3 ลูกเท่านั้น <1>
2. ท่านนายกฯ แนะนำให้ประชาชนสวดมนต์ต้านพายุ ท่านคงไม่ทราบวัตถุประสงค์ของการสวดมนต์ที่แท้ ซึ่งไม่ใช่การไล่พายุหรือสิ่งไม่พึงปรารถนา ในวารสารสังคมศาสตร์ปริทัศน์ เขียนไว้ชัดเจนว่าผลการวิจัยพบว่า “การสวดพระพุทธมนต์นั้นมีคุณค่าต่อสังคมไทย คือ (1) มีคุณค่าต่อการพัฒนาชีวิต คือ ทำให้เกิดศรัทธาและเร่งเร้าให้สร้างความดี (2) มีคุณค่าในด้านการพัฒนาสติปัญญา คือ การสวดมนต์ทาให้จิตใจสงบและหากพิจารณา ตามบทสวดมนต์ก็สามารถสร้างเสริมสติปัญญาได้ (3) มีคุณค่าในการศึกษาหลักคำสอน คือ การกระตุ้นให้สังคมเกิดความสนใจในคำสอนที่ปรากฏในบทสวดมนต์แต่ละบทนั้น (4) มีคุณค่าในด้านการพัฒนาจิตใจ คือ การสวดมนต์ถือว่าเป็นการทาสมาธิอย่างหนึ่งเมื่อจิตสงบย่อมมีผลต่อการกระทำในด้านอื่นๆได้ (5) มีคุณค่าในการพัฒนาสังคม คือ การสวดมนต์ถือว่าเป็นกิจกรรมของชุมชนหรือสังคมที่มี การจัดเตรียมสถานที่และพิธีกรรมมีการมาร่วมกันสวดมนต์ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่มีส่วนสร้างความสามัคคีให้เกิดกับชุมชนอย่างหนึ่ง” <2>
อ้างอิง
<1> โปรดดูรายละเอียดได้ที่ http://climate.tmd.go.th/content/file/1917
<2> อธิเทพ ผาทา. การศึกษาวิเคราะห์คุณค่าของการสวดพระพุทธมนต์ที่มีต่อสังคมไทย. ในวารสารสังคมศาสตร์ปริทัศน์. ปีที่ 6 ฉบับที่ 2-04 (2017): ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 (ฉบับพิเศษ เล่มที่ 4) พฤษภาคม 2560. https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/241698