ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้ที่เห็นด้วยกับการ “ขายชาติ ขายแผ่นดิน” ออกมาสนับสนุนการ “ขายชาติ ขายแผ่นดิน” ดร.โสภณ ขอวิพากษ์ความคิดเหล่านี้ให้ชัดๆ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวถึงความคิดเห็นของกลุ่มที่เห็นด้วยกับการ “ขายชาติ ขายแผ่นดิน” ว่ามีความผิดพลาดอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้เลิกอ้าง “ขายชาติ ขายแผ่นดิน” เสียที ดังนี้:
- บ้างอ้างว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยคนต่างชาติ จะทำให้ประเทศได้ภาษี ผู้ประกอบการก็สามารถขายบ้านได้ อันนี้เป็นความเท็จ เพราะเรายังไม่ได้กำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีซื้อ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่นานาอารยประเทศ 1-3% ก็ไม่ได้เก็บ ส่วนผู้ประกอบการก็แทบไม่ได้อะไร เพราะต่างชาติซื้อน้อยมาก
- บางคนอ้างว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยชาวต่างชาติเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งไม่จริง เพราะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาต่างชาติโอนซื้ออสังหาริมทรัพย์ปีละเพียง 10,000 หน่วยเศษ ในขณะนี้การจองซื้อห้องชุดโดยชาวต่างชาติก็ต่ำมาก แม้จะให้ซื้อ 100% ก็คงไม่ได้ช่วยอะไร แต่น่าสงสัยเหมือนกันว่าชาวต่างชาติที่ตั้งใจจะมาซื้อกันเองก็ต่อเมื่อซื้อได้ 100% เป็นคนเยี่ยงไร จะเกิดปัญหาความมั่นคงของชาติหรือไม่
- บางคนเสนอว่าควรให้วีซ่า 10 ปีแก่คนต่างชาติที่มาอยู่อาศัย ประเด็นที่น่าคิดอย่างหนึ่งก็คือ ระบบตรวจสอบของเราดีพอหรือยัง ที่ผ่านมามีอาชญากรมาอยู่ในไทยมากมาย หรือแม้กระทั่งมาสวมบัตรประชาชน มาซื้อขายแบบนิติกรรมอำพรางมากมาย เคยคิดจะจับ หรือเคยจับได้บ้างหรือไม่
- บางคนบอกว่าถ้าให้ต่างชาติซื้อบ้าน/ห้องชุดในราคาเกิน 10-15 ล้านบาท ก็อาจเป็นภาระแก่พวกเขา แต่กลับไม่เห็นใจคนไทยเพื่อนร่วมชาติว่าจะถูกต่างชาติแย่งซื้อ ทำให้บ้านราคาแพงขึ้น แต่พวกนี้กลับเสนอว่าถ้าจะให้ต่างชาติซื้อบ้าน/ห้องชุดในราคา 10-15 ล้านบาทนั้น ก็ควรให้ต่างชาติซื้อหลายหลัง รวมกันให้ได้ราคาดังกล่าว อย่างนี้ก็ส่งเสริมการเก็งกำไร นี่คือการขายชาติหรือไม่
- บ้างก็อ้างว่าถ้าให้ต่างชาติมาซื้อบ้าน/ห้องชุดในประเทศไทย ก็จะช่วยระบายสินค้าที่ขายไม่ออก แต่ในความเป็นจริงก็คือ ในขณะนี้ ต่างชาติก็มาซื้อน้อยกว่าเก่าด้วยซ้ำไป จึงไม่ได้มาช่วยระบายสินค้าแต่อย่างใด
- กรณีชาวต่างชาติมาแต่งงานกับคนไทย แล้วอยากซื้อบ้าน ก็ยังมีทางออกมากมายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ซื้อ 100% แต่อย่างใด นอกจากนี้ยังสามารถซื้อโดยภริยาคนไทย แต่ทำสัญญาเช่าระยะยาวโดยสามีต่างชาติ เป็นต้น ยิ่งกว่านั้นในอนาคตก็อาจมีการหย่าร้างได้เช่นกัน แล้วจะทำอย่างไรต่อไป
- อ้างว่าต่างชาติก็ให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์เสรี กรณีนี้เป็นการพูดที่ไม่ครบ เช่น สหรัฐอเมริกา มีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปีละ 1.5% (ไทยแทบไม่เก็บ) จีนให้ผู้ซื้อห้องชุด (อันที่จริงเป็นการเซ้งระยะยาว) ต้องอยู่อาศัยในจีนเกิน 1 ปีแล้ว สิงคโปร์-ฮ่องกง ก็เก็บภาษีซื้อถึง 20-30% การอ้างลอยๆ จึงเป็นเพียงความพยายามในการ “ขายชาติ”
- บางท่านอ้างว่าในไซปรัสซึ่งเป็นรัฐสมาชิกสหภาพยุโรปก็อนุญาตให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้เสรี เช่น หากนำเงินเข้าไปซื้อ 300,000 ยูโร ก็สามารถซื้อบ้านได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ปกปิดไม่นำเสนอก็คือชาวต่างชาติที่ซื้อบ้านในไซปรัส ต้องเสียภาษีถึง 19% ของราคาขาย (https://bit.ly/3zUCOIn) แต่ประเทศไทยไม่เก็บ นี่จึงเป็นการ “ขายชาติ”
- ในความเป็นจริงฝรั่งที่มีฐานะดีจะไม่มาอยู่ประเทศไทยเป็นการถาวร เขาก็รักบ้านเกิดเมืองนอนของเขา ไม่คิดขายชาติ นอกจากจะมาอยู่ชั่วคราวเพื่อหนีหนาว ส่วนใหญ่ฝรั่งที่มาอยู่ไทยถาวรนั้น มักเป็นพวกที่หนีความกดดันในประเทศของตนเองและพวกที่มีงินบำนาญไม่พอใช้ในประเทศตนเอง พวกนี้เรียกว่า Pension Refugees มาอยู่ไทยเพราะค่าครองชีพที่ไทยถูกว่า การที่จะมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยคงน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลยเพราะเงินไม่พอ เอาเงินเก็บไว้ใช้จ่ายดีกว่า เช่าเอาถูกกว่าซื้อ
- ที่ผ่านมามีการทำธุรกรรมอำพราง เช่น การซื้อขายโดย Nominee หรือการปล่อยเช่า 30 ปี + 30 ปี + 30 ปี บ้าง แทนที่จะบอกความจริงกับลูกค้าชาวต่างประเทศว่าผิดกฎหมาย แต่กลับสมคบกันทำเพียงเพื่อหวังประโยชน์ส่วนตัว การกระทำแบบนี้ ไม่สง่างาม และปรากฏการณ์นี้ชี้ว่า เราไม่อินังขังขอกกับความมั่นคงของชาติเลย แต่อนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
จากข้ออ้างที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และเป็นความเท็จเช่นนี้เอง ไทยจึงไม่ควรเปิดให้ต่างชาติซื้อห้องชุด 100% หรือให้เช่าที่ดินระยะยาวเกือบ 100 ปี