เดี๋ยวนี้ผม “เที่ยว” ไม่หยุดแทบทุกสัปดาห์ (อันที่จริงไปทำงานด้วยครับ) โดยไม่เกรงกลัวโควิด แต่ท่านทราบไหม ผมกลัวรัฐบาลบริหารโควิดผิดๆ ทำไทยเสื่อมถอยมากกว่า ผมขออนุญาตเล่าการ “เที่ยว” ให้ฟังกันครับ
หลังจาก “ตะลอนทัวร์ตามล่าโควิด” (https://bit.ly/3tNZCbA) ตลอดช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564 เป็นเวลา 8 สัปดาห์ต่อเนื่องแล้ว ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ก็ยังเที่ยวไม่หยุดโดยเที่ยวในเมืองและนอกเมืองบ้างโดยไม่กลัวโควิด เพราะถ้าเรารู้จักป้องกัน โอกาสติดเชื้อมีน้อยมาก
เสาร์-อาทิตย์ที่ 4-5 กันยายน 2564 ผม WFH ครับ ไม่ได้ Work from Home นะครับ แต่ Work from Hotel. ผมและศรีภริยาไปพักที่โรงแรมคอนราด ถนนวิทยุ เพราะในขณะที่มีการระบาดของ COVID-19 นี้ โรงแรมระดับ 4-5 ดาวทั้งหลายก็แทบไม่มีรายได้เช่นกัน ผมจึงได้โอกาสมาพักที่นี่ ห้องพักแบบหนึ่งนอน หนึ่งห้องรับแขก อาหารเช้า 2 วัน อาหารค่ำ แถมอาหารว่างในคลับช่วงบ่าย ว่ายน้ำทั้งวัน เช็คอินตั้งแต่ 09:00 เช็คเอ้าท์ 16:00 เพียง 4,900 บาท (ตอนจ่ายเงินลดเหลือ 3,900 บาทครับ) ไม่ต้องเปลืองน้ำมันขับ ไม่ต้องรถไปไกล ชาวกรุงหรือชาวต่างจังหวัดที่มาไหว้พระก็มาอุดหนุนโรงแรมดีๆ (ยิ่งของไทยยิ่งดี) ในกรุงเทพมหานครบ้างครับ (https://bit.ly/3Fw2XkS)
สัปดาห์ถัดไป คือวันเสาร์-อาทิตย์ 11-12 กันยายน 2564 ภริยาพาผมไปพักโรงแรมแชงกรี-ลา จ่าย 3,900 บ แถมคูปองอาหาร 2,500 บ จ่ายหลักพัน วิวหลักล้าน เช็คอินได้ตั้งแต่ 06:00 น. เช็คเอ้าท์ได้ถึง 20:00 น.ของอีกวัน แต่ผมเช็คอินจริงราว 09:00 และเช็คเอาท์ในบ่ายวันรุ่งนี้เวลาประมาณ 15:00 น. นี่เป็นรีสอร์ตในกรุงชัดๆ ไม่ต้องขับรถไปไกล ไม่เปลืองเวลาและน้ำมัน ไม่เสี่ยงอุบัติเหตุระหว่างทาง บริการระดับ 5 ดาวจริงๆ นับว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งจริงๆ (https://bit.ly/2YE1sjL)
อาทิตย์-จันทร์ 19-20 กันยายน คราวนี้ไม่ได้ไปวันเสาร์เพราะติดมอบวุฒิบัตรหลักสูตรนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ของโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย จึงมาวันอาทิตย์กับจันทร์แทน โดยมาดูงานการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงที่โคราชว่าจะมีโอกาสแล้วเสร็จในปี 2568-9 จริงหรือไม่ สัปดาห์นี้เลยได้พักที่ ณดล สตรีมไซด์ ไทย วิลล่า โดยไม่ได้จองล่วงหน้า แต่เห็นแล้วชอบ โรงแรมนี้อนุรักษ์ ศิลปะ และ วัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทยเอาไว้ โครงการนี้อยู่ริมคลองมวกเหล็กซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างสระบุรีและนครราชสีมา ภูเขาและลำธารสวยงาม ค่าที่พักก็เพียง 2,100 บาท (https://bit.ly/3lr4VLs)
เสาร์-อาทิตย์ 25-26 กันยายน โดยที่ในวันเสาร์ที่ 25 กันยายน ผมต้องพานักศึกษาไปดูงานและมอบวุฒิบัตรหลักสูตรประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ที่บางกอกกอล์ฟ ปทุมธานี ในคืนวันที่ 25 กันยายน ครั้งแรกตั้งใจจะไปแถววังตะไคร้หรือน้ำตกสาลิกา แต่ได้ข่าวว่าคนออกท่องเที่ยวที่นั่นมากมาย ผมและภริยาจึงหาโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาพักค้างคืน ได้พบโรงแรมชื่อ Siri River Place (https://bit.ly/3lr605Y) เป็นโรงแรมเล็กๆ มีห้องหันหน้าไปทางแม่น้ำ พร้อมร้านอาหารอร่อยด้วย ค่าที่พักถูกมากเพียง 1,300 บาทเท่านั้น ดูจากเกาะเกร็ดและบริเวณใกล้เคียงแล้วคุ้มมาก
ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ 1-3 ตุลาคม ในช่วงเช้าของวันศุกร์ ผมติดงานสำคัญ จึงเดินทางไปดูงานในบ่ายวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม โดยไปพักที่ชะอำ ไม่ได้จองโรงแรม แต่เดินทางไปถาม บังเอิญได้โรงแรมเล็กๆ ชื่อ Magic House Hostel (https://bit.ly/3DvsoRE) เป็นตึกแถวติดถนนหน้าหาด แต่โชคดีที่ได้ห้องที่หันหน้าไปทะเลพอดี บรรยากาศดีมาก ราคาถูกเพียง 900 บาทเท่านั้น การบริการก็ดี อย่างไรก็ตามผมก็ใช้เพียงนอนพัก เพราะในวันรุ่งขึ้นก็เดินทางไปป่าละอูและแก่งกระจานต่อเพื่อดูการพัฒนาเมือง ในคืนวันเสาร์จึงได้มาพักที่โรงแรมแจ่มจันทร์ (https://bit.ly/2WYRg4H) ที่แก่งกระจาน ซึ่งเป็นโรงแรมที่สวยงาม น่าพักในสนนราคาประมาณ 2,000 บาท นับว่าคุ้มค่าเช่นกัน
เสาร์-อาทิตย์ 9-10 ตุลาคม ผมกลับมาพักในเมืองต่อเนื่องจากช่วงนี้มีคนออกต่างจังหวัดเที่ยวมากมายโดยไม่รอโปรโมชั่นจากรัฐบาล (อันที่จริงไม่ควรมี เอาเงินไปช่วยประชาชนดีกว่า) ผมพักที่ Bangkok Marriott สุขุมวิท 57 เป็นโรงแรมหรู มีโปรโมชั่นว่าเสียค่าที่พักเพียง 2,900 บาท มีคูปองอาหารให้อีก 2,900 บาท ทานอะไรก็ได้แล้วก็นอนฟรีเลย ผมเลยใช้สิทธิ์ 2 Breakfast ซะเลย ไปว่ายน้ำ ไป Work from Hotel โดยสอนหนังสือเช้าวันเสาร์ และเกือบทั้งวันของวันอาทิตย์อีกต่างหาก ได้ว่ายน้ำ พักผ่อนก็ถือว่าคุ้มค่ามาก
เสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 ไปเที่ยวราชบุรี อุทยานหินเขางู ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดราชบุรีประมาณ 8 กิโลเมตร ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เดิมเป็นแหล่งระเบิดและย่อยหินตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ เนื่องจากเป็นปูนที่มีคุณภาพดี ต่อมาทั้งภาครัฐและประชาชนได้เล็งเห็นถึงความเสื่อมโทรมของสภาพภูมิประเทศ และวิวทิวทัศน์ อีกทั้งที่เขางูนี้ยังเป็นศาสนสถานอันเก่าแก่ จึงได้มีการยกเลิกสัมปทานการระเบิดและย่อยหินที่บริเวณนี้ไป
เสาร์-อาทิตย์ที่ 23-24 ตุลาคม 2564 ผมได้ไป “WFH: Work From Hotel” ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ขอส่งเสริมให้ผู้สนใจไปพักที่โรงแรมในกรุงเทพมหานครเพื่อช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยในกรณีนี้ ค่าที่พักเป็นเงินเพียง 3,300 บาท พร้อมอาหารเช้า สำหรับ 2 ท่าน นอกจากนี้ยังมีคูปองอาหารให้อีก 1,800 บาท และให้เวลาเข้าพักนานถึง 30 ชั่วโมง จึงนับว่าคุ้มค่ามาก ท่านอาจจะไป WFH หรืออาจไปพักผ่อนกับกิจกรรมว่ายน้ำหรืออื่นๆ ในโรงแรมในบรรยากาศกึ่ง Resort นอกจากชาวกรุงแล้ว สำหรับประชาชนในต่างจังหวัดที่คิดจะมาเยี่ยมญาติในกรุงเทพมหานคร หรือมาทำบุญไหว้หรือหรือมีธุระอื่นใดก็ตาม ก็สามารถมา WFH ในลักษณะนี้ได้เช่นกัน
เสาร์-อาทิตย์ 30-31 ตุลาคม ผมออกต่างจังหวัดบ้าง แต่ทราบว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนหน้าผู้คนออกต่างจังหวัดกันมากมาย ผมก็เลยมุ่งไปแค่แถวริมน้ำแม่กลอง ชื่อ Na Tree Tara ณ ทรีธารา เป็นโรงแรมแบบรีสอร์ตติดริมแม่น้ำ บรรยากาศดี ตัวบ้านและตัวห้องดี มีอ่างจากุซซี่ สระว่ายน้ำ ฯลฯ สนนราคา 3,300 บาทต่อคืน แต่ “ลุงตู่” เอาภาษีของประชาชนมาจ่ายให้ 40% ภริยาของผมจึงจ่ายเอง 1,980 บาท กรณีนี้บางคนอาจหลงสรรเสริญ “ลุงตู่” แต่ความจริงเป็นการ “ทำลายชาติ” แท้ๆ แทนที่จะเอาเงินไปพัฒนาประเทศ กลับเอาเงินไปปรนเปรอข้าราชการหรือคนที่มีเงินเพื่อให้ไปเที่ยว ทั้งที่เขามีปัญญาเที่ยวเองอยู่แล้ว
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และโครงการทัวร์เที่ยวไทย จะมีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปี 2564 เกี่ยวเนื่องถึงต้นปี 2565 จำนวน 27,500 ล้านบาท โดยรัฐสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ให้คูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% จำนวน 2 ล้านสิทธิ หรือห้องพัก และโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่รัฐสนับสนุนวงเงิน 5,000 บาท ให้ประชาชนเดินทางเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ จำนวน 1 ล้านสิทธิ สามารถจองห้องพักได้ในวันที่ 8 ตุลาคม เพื่อให้สามารถเข้าพักได้ในวันที่ 15 ตุลาคม เป็นต้นไป (https://bit.ly/3BzibDs) อันที่จริงหลังการล็อคดาวน์ ผู้ที่พอมีฐานะก็อยากท่องเที่ยวอยู่แล้ว เงินจำนวน 27,500 ล้านบาท ควรเอาไปช่วยคนยากจนมากกว่า
แก้ปัญหาประเทศแบบผิดๆ รังแต่จะทำให้ประเทศชาติบอบช้ำ คนจนก็ยิ่งมากขึ้น ยิ่งจนมากขึ้น ทำให้ศักยภาพของไทยถดถอยลง เป็นการทำร้ายลูกหลานไทยโดยแท้