ตามที่กรุงเทพมหานครกำลังก่อสร้างสวนสาธารณะคลองช่องนนทรี ดร.โสภณ “ฟังธง” ว่านี่คือการคิดผิดๆ อย่างแน่นอน ผิดอย่างไรมาดูกันให้ชัดๆ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวถึงโครงการสวนสาธารณะช่องนนทรี ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ว่า “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้โพสต์เฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน เรื่อง การพัฒนาคลองระบายน้ำให้เป็นสวนสาธารณะคลองใจกลางเมืองย่านธุรกิจ ระบุว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งคลอง ในสมัยก่อนใช้สัญจรและระบายน้ำ ชีวิตคนอยู่กับคลอง . . .เมื่อความเจริญของเมืองเข้ามา คลองจึงเป็นแค่ที่ระบายน้ำ กทม. ได้พัฒนาคลองให้ได้ใช้ประโยชน์มากกว่าที่ระบายน้ำเพียงอย่างเดียว โดยทำให้เป็นสวนสาธารณะ เพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้เป็นเป็นที่พักผ่อนของคนเมือง เป็นพื้นที่ทำกิจกรรม ออกกำลังกาย ใช้คลองเชื่อมคน ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน”
ในข่าวยังบอกว่า “ตนมาตรวจดูความคืบหน้าของการก่อสร้างสวนสาธารณะคลองช่องนนทรี ช่วงที่ 2 ถนนสาทร ถึงซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 7 ซึ่งคาดว่าจะเสร็จก่อน และเปิดให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้ในวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ซึ่งในส่วนนี้ จะเป็นทางเดินบนคลอง มีลานกิจกรรม ใช้เป็นที่พักผ่อนของคนเมืองได้เพิ่มอีก และมีน้ำตก ซึ่งเป็นน้ำในคลองที่บำบัดแล้ว แยกจากน้ำทิ้ง ที่อยู่ด้านล่างในท่อระบายน้ำใต้คลอง คลองช่องนนทรีนี้ จะเป็นสวนสาธารณะคลองแห่งแรกของไทยที่เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะมีระยะทางรวม 2 ฝั่ง 9 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 5 ช่วง ซึ่งจะสร้างเสร็จทั้งหมดในเดือนสิงหาคม 2565” <1>
ดร.โสภณ ขอตั้งคำถามและให้ความเห็นว่าการก่อสร้างสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีนี้เป็นการคิดที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเป็นอย่างยิ่ง ดังนี้:
1. ในโครงการนี้ กรุงเทพมหานครได้ทำประชาพิจารณ์อะไรบ้างหรือไม่ ว่าประชาชนต้องการหรือไม่ หรือมีข้อดีข้อเสียอะไรที่ควรพิจารณาหรือไม่ หรือถือวิสาสะว่าคลองนี้อยู่ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร จึงก่อสร้างสวนสาธารณะขึ้นมาส่งเดชโดยไม่มีการปรึกษาหารือสาธารณะแบบนี้
2. ลำคลองนี้ควรพัฒนาให้ลึกกว่านี้ด้วยซ้ำไป หรือมีอุโมงค์ส่งน้ำที่มีประสิทธิภาพเพื่อเป็นการระบายน้ำจากศูนย์กลางเมือง ยิ่งกว่านั้นพื้นสีลม-สุรวงศ์-สาทรนี้ถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business Disrict: CBD) ของไทย ที่ต้องป้องกันน้ำท่วมไว้ให้ดีที่สุด จะเห็นได้ว่า CBD ของไทย ถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านทั้งด้านตะวันออก ใต้และตะวันตก โอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมมีมาก เราควรที่จะรักษาคลองนี้ไว้เพื่อการระบายน้ำและการป้องกันน้ำท่วม
3. ถ้าจะสร้างจริงๆ ก็ควรที่จะสร้างคร่อมบนคลองแทนที่จะวางตัวสวนบางส่วนไว้ต่ำกว่าระดับถนน เพียงเพื่อหวังความสวยงามทางภูมิสถาปัตยกรรม แต่จะทำให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำลดลงหรือไม่ หรือไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำตามที่สมควรดำเนินการ
4. ยิ่งกว่านั้นลำคลองนี้ควรที่จะนำมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายช่องนนทรี-พระราม 3-รัชดาภิเษก-ท่าพระ เพื่อทดแทนรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษในกรุงเทพมหานคร (Bus Rapid Transit: BRT) ซึ่งเป็นระบบที่ล้าหลัง ขาดประสิทธิภาพ ขาดทุนมหาศาลมาโดยตลอด และเป็นระบบที่กินพื้นที่ถนนไป 2 ช่องทางจราจร การก่อสร้างสวนสาธารณะขวางไว้เช่นนี้ เมื่อวันหน้าต้องก่อสร้างรถไฟฟ้าคร่อมคลองดังกล่าว ก็จะต้องรื้อทิ้ง สวน “กำมะลอ” แห่งนี้จึงจะกลายเป็นความสูญเปล่าไปเสียอีก
5. ที่กรุงเทพมหานคร “คุย” ว่าจะสร้างต้นไม้เพิ่มขึ้น 5,000 ต้น แต่การก่อสร้างนี้ต้องรื้อถอนต้นไม้จำนวนมหาศาลที่มีอยู่แล้วทั้งหมดหรือไม่ กรุงเทพมหานครอ้างว่าจะก่อสร้างระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร ทั้งไปและกลับ แต่ปัจจุบันมีต้นไม้ทุกระยะประมาณ 5 เมตร ดังนั้นต้องรื้อต้นไม้เดิมทิ้งจำนวน 1,800 ต้นใช่หรือไม่
6. อันที่จริงกรุงเทพมหานครยังมีทางเลือกในการพัฒนาสวนริมคลองในช่วงอื่น เช่น ช่วงสาทร-สีลม โดยสามารถก่อสร้างสวนลอยฟ้ายกระดับจากพื้นดินและอยู่ใต้ Skywalk ปัจจุบัน นอกจากนี้ในช่วงสีลม-สุรวงศ์บนคลองช่องนนทรี ก็สามารถนำมาก่อสร้างสวนสาธารณะได้เช่นกัน โดยในช่วงดังกล่าวนี้ กรุงเทพมหานครได้ทำเป็นสวนไว้แล้ว แต่การออกแบบไม่สวยงามเท่าที่ควร และการใช้สอยมีจำกัดมาก กรุงเทพมหานครจึงควรเลือกพัฒนาในบริเวณเหล่านี้ให้ดีก่อนที่จะคิดมาทำบนคลองช่องนนทรีที่ทำอยู่ในขณะนี้
เดินหน้าก็เสียหาย ถอยหลังก็เสียหน้า จะเอาไงดีครับท่านผู้ว่าฯ (ที่ คสช.แต่งตั้ง)
อ้างอิง
<1> เปิดภาพสวนสาธารณะ “คลองช่องนนทรี” ให้บริการเฟสแรก 25 ธ.ค.64. ประชาชาติธุรกิจ 16 ตุลาคม 2564. https://bit.ly/3CF1ZRC