อสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนพฤศจิกายนทำสถิตินิวไฮ โดยเปิดตัวถึง 49 โครงการ จำนวน 11,051 หน่วย มูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 54,071 ล้านบาท คาดเดือนธันวาคม จะเปิดตัวน้อยลง
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าในเดือนพฤศจิกายน อสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการเปิดตัวโครงการใหม่คึกคักมากที่สุดในรอบปี 11 เดือนที่ผ่านมา โดยมีจำนวนมากถึง 49 โครงการ เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2564 จำนวน 21 โครงการ เป็นประเภทที่อยู่อาศัย 46 โครงการ และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ 3 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 11,051 หน่วย มูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 54,071 ล้านบาท
จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 11,051 หน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 4,492 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 68.5% (เดือนตุลาคม 2564 มีจำนวน 6,559 หน่วย) โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือ อาคารชุด มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ 4,710 หน่วย (42.6%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 3,598 หน่วย (32.6%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 1,880 หน่วย (17.0%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด
มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 54,071 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมามากถึง 32,096 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 146.1% (เดือนตุลาคม 2564 มีมูลค่า 21,975 ล้านบาท) ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา โดยจะพบว่าที่อยู่อาศัยที่เข้าสู่ตลาดในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาปานกลางเป็นสำคัญ
ดร.โสภณกล่าวว่าการพัฒนาที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทในเดือนนี้มีมูลค่าใกล้เคียงกัน คือ อาคารชุด 19,243 ล้านบาท (35.6%) รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 16,277 ล้านบาท (30.1%) ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 11,236 ล้านบาท (20.8%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ส่วนใหญ่หากเป็นบ้านเดี่ยวจะเน้นที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์จะเน้นราคา 2-3 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดจะเน้นที่ราคา2-3 ล้านบาท เช่นกัน
เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้มีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่ระดับราคาเกิน 3 ล้านบาทมากถึงประมาณ 51.0% ของหน่วยขายทั้งตลาด จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมของเดือนนี้เพิ่มขึ้นเป็นหน่วยละ 4.893 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นประมาณ 46%) เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่หน่วยละ 3.350 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางเป็นสำคัญ
สัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่าการพัฒนาโครงการแบ่งตามระดับราคาขาย
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 11 บริษัทคือ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
ในด้านทำเลที่ตั้ง (โปรดดูแผนที่) จะพบว่าในเดือนนี้มีโครงการเปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในจำนวน 2 โครงการ ส่วนที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) มีจำนวน 39 โครงการ เช่น ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดี-รังสิต ถนนรามอินทรา ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ถนนเทพารักษ์ ถนนศรีนครินทร์ ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนเพชรเกษม ถนนบางกรวย-ไทรน้อย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 8 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้แหล่งงาน เช่น ย่านประตูน้ำพระอินทร์ รังสิต อ้อมน้อย และลาดกระบัง เป็นต้น
ดร.โสภณกล่าวทิ้งท้ายว่ายังมีโครงการที่โฆษณาแล้วแต่ยังไม่เปิดขายอีกจำนวน 359 โครงการ ซึ่งคงจะทยอยเปิดตัวออกมาตามลำดับ แต่คาดว่าน่าจะน้อยกว่าเดือนพฤศจิกายน 2564