เมื่อวันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2565 ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้มีโอกาสไปชม “ป้อมพระจุล” จึงขอนำมาเผยแพร่
ในเว็บไซต์ของ “ไปด้วยกัน” (https://bit.ly/3KUMaL4) ได้นำเสนอเกี่ยวกับป้อมดังกล่าวไว้ดังนี้:
ป้อมพระจุลจอมเกล้า หรือเรียกสั้นๆว่า “ป้อมพระจุล” เป็นป้อมปราการทางน้ำ ตั้งอยู่ที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ปัจจุบันป้อมพระจุลจอมเกล้าอยู่ในความดูแลของฐานทัพเรือกรุงเทพ มีจุดที่น่าสนใจ คือ สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ชมพิพิธภัณฑ์เรือรบกลวงแม่กลอง รวมทั้งร้านอาหารของสโมสร ป้อมพระจุล จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ
ป้อมพระจุล ตั้งอยู่ด้านหลังพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ สร้างขึ้นในราวเดือน มีนาคม พ.ศ. 2427 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อป้องกันการรุกรานจากอังกฤษและฝรั่งเศส เป็นป้อมสีขาวที่มีขนาดไม่สูงมาก ความว้าว คือ ทางเดินภายในป้อมที่สวยงาม โดยในช่วงที่แสงอาทิตย์สาดส่องมากระทบกับหลังคาเหล็กที่เรียงตัวคล้ายหลังคากลายเป็นเส้นแสงเงาลงบนกำแพงสีขาวและพื้นตัวหนอนสีส้มอิฐ ประกอบกับมีช่องประตูเข้าออกที่เรียงราย องค์ประกอบทั้งหมดนี้รวมกันกลายเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา ถึงแม้จะเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่หลายคนอาจไม่สนใจ แต่มีจุดถ่ายภาพที่คูลมาก
พิพิธภัณฑ์เรือรบหลวงแม่กลอง เป็นเรือรบที่ประจำการยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์กองทัพเรือไทย และเป็นเรือรบที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของโลก หลังจากใช้งานเป็นเวลานานเกือบ 60 ปี ( ปี พ.ศ.2480-2539 ) จึงเห็นสมควรที่จะปลดประจำการ เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2539 และได้รับการอนุรักษ์ไว้ โดยปัจจุบันได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชม ส่วนหัวของเรือมีตราครุตที่โดดเด่นและสง่างามติดอยู่ การติดรูปครุฑที่หัวเรือรบของ ราชนาวีไทย เป็นการปฏิบัติตามประเพณีนิยมของชาวเรือ ตามความเชื่อที่ว่าเรือรบเป็นพาหนะแห่งอำนาจของชาติ ที่ไปปรากฏยังน่านน้ำต่างๆ เช่นเดียวกับพระครุฑพ่าห์ของพระนารายณ์ ดังนั้นเรือรบไทยจึงได้ติดรูปครุฑไว้ที่หัวเรือ เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงอำนาจของชาติไทยไว้ด้วย