ตามที่มีข่าวสาวฆ่าตัวตายเพราะถูกพี่เขยข่มขืน ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ขอให้ความเห็นบางประการ
เรื่องสาวฆ่าตัวตายเพราะถูกพี่เขยข่มขืน
เรื่องนี้น่าเศร้า ขอให้เธอสู่สุขคติ เราควรเคารพสิทธิการตัดสินใจของผู้ตาย แต่การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่เคยสนับสนุน
สื่อออกข่าวว่าข่มขืน แต่ทั้ง 3 ศาลไม่เคยตัดสินว่าจำเลยทำแบบนี้ อย่าเพิ่งปักใจเชื่อตามกระแส จนกว่าจะศึกษาคำพิพากษาศาลฎีกา
เธอทำเพราะเธอบอกเองว่าตนอ่อนแอเกินไป คนทั่วไปอาจเข้มแข็งแม้โดนหนักกว่านี้ เธอจึงไม่อยู่ร่วมต่อสู้ชีวิตกับสามี+ลูกเล็กอีก2คน
ควรมีระบบให้คำปรึกษาในครอบครัวหรือในชุมชนที่มีประสิทธิผล
ต่อมาเดลินิวส์ได้ลงข่าวคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งน่าสนใจมากดังนี้: คำพิพากษาฎีกายกฟ้อง คดีพี่เขยข่มขืนสาวสุพรรณ เป็นเหตุคิดสั้นลาโลก www.dailynews.co.th/news/745030/
“ผู้เสียหายให้การในชั้นสอบสวนว่า ขณะผู้เสียหายรู้สึกตัวขึ้นมามองเห็นจำเลยกำลังข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยใช้อวัยวะเพศของจำเลยสอดใส่ในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย ต่างกับที่ให้การในชั้นศาลว่าขณะเกิดเหตุจำเลยทำอะไรกับผู้เสียหายบ้าง ผู้เสียหายก็ไม่ทราบและผู้เสียหายอ้างว่าไม่รู้สึกตัว และที่สามีของผู้เสียหายให้การว่าได้นำกางเกงที่เป็นหลักฐานมาดมดูแล้วได้กลิ่นเหมือนอสุจิผู้ชายนั้น ตามรายงานการตรวจพิสูจน์ก็ไม่พบคราบอสุจิของจำเลยที่กางเกงดังกล่าว และไม่พบผลตรวจ DNA ของผู้เสียหายในกางเกงดังกล่าวเลย พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมามีพิรุธ. . .ฎีกาของจำเลยฟังขึ้นพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยฐานกระทำอนาจาร. . . และยกคำร้อง. . .”