รู้จักไหม บริษัท PropTech ที่ดีที่สุดในโลก
  AREA แถลง ฉบับที่ 425/2565: วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
รู้จักไหม บริษัท PropTech ที่ดีที่สุดในโลก

       อนาคตของอสังหาริมทรัพย์ไปทาง PropTech แน่นอน มาศึกษาบริษัท PropTech ที่ดีที่สุดในโลก เขาทำธุรกิจอะไรกัน แล้วไทยเราจะไปทางไหน

            PropTech หรือ Property Technology หมายถึงนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็น Digital Solution ในส่วนที่เป็นซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มที่นำมาใช้อำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ แนวสูง อาคารชุด หรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เช่น สำนักงาน ศูนย์การค้า อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม การพักผ่อน เช่น รีสอร์ต โรงแรม โดยช่วยตั้งแต่การออกแบบ  วางแผน การก่อสร้าง การบริการหลังการขาย การซื้อขายเช่า รวมถึงการบริหารจัดการอาคารและทรัพย์สินทั้งหลาย

            การใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น ใช้ง่ายขึ้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและให้ประสิทธิผลที่ดีต่อผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่กำลังนิยมในขณะนี้ก็คือการใช้แพลตฟอร์มเพื่อการตลาดและการขายหรือให้เช่าทรัพย์สิน ก่อให้เกิดสภาวะ Smart Home, Smart Building (Intelligent Building) และ Smart City ยิ่งในภาวะของการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การใช้ PropTech ย่อมจำเป็นสำหรับการบริการทางด้านนี้

            สำหรับการขายอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ หลายท่านคงเห็นการสร้างมุมมอง 360 องศาสำหรับทรัพย์สิน การเข้าเยี่ยมชมบ้านแบบที่ไม่ต้องไปถึงที่ตั้งเลย เป็นแบบภาพเสมือนจริง  ช่วยจับคู่ผู้ซื้อ ผู้ขาย ช่วยอำนวยความสะดวกแก่นายหน้า ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นักบริหารทรัพย์สิน ยิ่งกว่านั้น PropTech ยังสามารถศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคจากการเลือกซื้อ เลือกชมสินค้าอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งกว่านั้นยังสามารถใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินในการจอง ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ได้อีกด้วย  แต่หลายคนก็มองว่าต่อไป PropTech อาจทำให้เกิดการซื้อขายแบบ End-to-End Transaction โดยไม่ผ่านนายหน้าก็ได้

            ในประเทศไทยมีบริษัท PropTech บ้างหรือยัง ตัวอย่างที่ชัดเจนก็เช่น บจก.ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งถูกซื้อไปโดย บจก.PropertyGuru ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ และบริษัทนี้ซึ่งแต่แรกเป็นบริษัทสื่อโฆษณาอสังหาริมทรัพย์ยังได้ซื้อกิจการ ของ thinkofliving.com และ Prakard.com ในประเทศไทย และ iProperty.com.my และ Brickz.my ในมาเลเซียไปอีกด้วย ในแง่หนึ่งก็เป็นการกำจัดคู่แข่ง แต่ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นการสยายปีกให้กว้างขวางขึ้น และต่อไปยังจะผนวกกับบริษัทนายหน้าบางแห่งอีกต่างหากเพื่อให้บริการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

            จุดสำคัญของบริษัทเหล่านี้ก็คือต้องมีซอฟแวร์ที่ก้าวหน้าล้ำยุค สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อ ผู้ขาย สถาบันการเงิน หรือผู้บริโภคโดยรวมไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน นักพัฒนาที่ดิน นายหน้า ผู้เช่า ผู้ให้เช่า ฯลฯ ได้อย่างเต็มที่โดยพยายามหาช่องทางตลาดใหม่ๆ แก่ผู้เกี่ยวข้อง  เรามาดูว่าในระดับโลก มีบริษัท PropTech ชั้นนำอะไรบ้าง ที่ประเทศไทยของเราควรศึกษาเป็นเยี่ยงอย่าง

            Ascendix Technologies บริษัทนี้ก่อตั้งในปี 2539 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครดัลลัส มลรัฐเทคซัส บริษัทนี้ให้บริการด้านระบบการดูแลลูกค้า (Customer Relation Management: CRM) และสร้างซอฟแวร์ด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ รวมทั้งการจัดหาพื้นที่สำนักงานให้กับผู้สนใจอีกต่างหาก บริษัทนายหน้าระดับโลกใหญ่ๆ ต่างใช้บริการซอฟแวร์ของบริษัทนี้

            Zumper บริษัทนี้เพิ่งก่อตั้งในปี 2555 เอง โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครซานฟรานซิสโก บริษัทนี้ให้บริการการค้นหาบ้านหรือห้องชุดเพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการพักผ่อนอีกด้วย  ทั้งนี้บริษัทนี้เติบโตเพราะการซื้อขายบ้านในสมัยเดิมนั้นใช้นายหน้าเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันการซื้อขายลดน้อยลง มีการเช่ามากขึ้น และเทคโนโลยีได้พัฒนาไปถึงขั้นที่แทบไม่ต้องใช้นายหน้ามากนักโดยเฉพาะการเช่าบ้าน  Zumper เน้นการเช่าบ้านระยะยาว ซึ่งแตกต่างจากกรณี Airbnb หรือ Booking.com  ที่เน้นการเช่าระยะสั้นสำหรับนักท่องเที่ยว

            OpenDoor บริษัทนี้เพิ่งตั้งในปี 2557 นี้เอง มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครซานฟรานซิสโก โดยคนอเมริกันเชื้อสายจีน ชื่อ Eric Wu โดยบริษัทนี้ทำแพลตฟอร์มสำหรับการช่วยการซื้อขายบ้านเพื่อประโยชน์ของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งปกติต้องใช้นายหน้าและนักกฎหมาย ทั้งนี้บริษัทนี้จะซื้อบ้านจากผู้ขายในราคาต่ำ เช่น ประมาณ 80% ของราคาตลาด แล้วนำมาขายต่อให้ผู้สนใจซื้อโดยผู้ขายไม่ต้องดำเนินการใดๆ เลย  ในแต่ละปีในสหรัฐอเมริกามีการซื้อขายบ้านถึง 5 ล้านหน่วยต่อปี บริษัทนี้จึงมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก

            Reonomy บริษัทนี้ก่อตั้งในปี 2556 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครนิวยอร์ก โดยกลายมาเป็นบริษัทซอฟแวร์ด้านอสังหาริมทรัพย์และการเงินโดยอาศัย Big Data และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) โดยให้บริการแก่นายหน้าและนักวิชาชีพด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยทำการวิเคราะห์ความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ และมีระบบการเช่าอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่กว้างขวางที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้บริษัทนายหน้าใหญ่ๆ ระดับโลกล้วนเป็นลูกค้ารายสำคัญ

            Guesty ก่อตั้งในปี 2556 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ซึ่งช่วยให้บริษัทนายหน้าระดับโลกทั้งหลายสามารถจัดการทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัททำด้านการ Call Centre สำหรับลูกค้า การดำเนินการประสานงานได้อย่างคล่องตัว การบริหารจัดการลูกค้า ทั้งนี้เน้นการให้บริการการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อน คือ รีสอร์ตและโรงแรมเป็นสำคัญ

            HoloBuilder เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2558 นี้เอง และตั้งอยู่ที่นครซานฟราสซิสโก เน้นซอฟแวร์ที่ล้ำสมัยในการให้บริการจัดการก่อสร้างอาคารตามขั้นตอน ผู้ใช้บริการสามารถติดตามผลได้ต่อเนื่องมีภาพ คลิปแบบ 360 องศา พร้อมระบบแจ้งเตือนงานตามขั้นตอน  การประหยัดต้นทุนค่าก่อสร้าง การควบคุมระยะเวลาในการก่อสร้าง ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้โปรแกรมนี้สามารถขายได้ทั่วไปในสหรัฐอเมริกา

            Zillow ก่อตั้งในปี 2547 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครซีแอตเติล มลรัฐวอชิงตัน เป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมเพื่อการซื้อบ้านมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทนี้พยายามที่จะปรับปรุงและอำนวยความสะดวกในกระบวนการซื้อขายบ้าน รวมทั้งกระบวนการเช่าบ้านอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นบริษัทนี้ยังให้ข้อมูลราคาบ้านที่ผ่านการประเมินโดย Zillow เพื่อความมั่นใจของผู้ซื้อบ้านอีกด้วย

            ManageCasa บริษัทนี้เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2559 นี้เอง มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นครซานฟรานซิสโก โดยบริษัทนี้ให้บริการซอฟแวร์ด้านการจัดการอาคาร สามารถออกรายงานแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างทันท่วงที ให้บริการผ่านระบบมือถืออีกด้วย  จะสังเกตได้อย่างหนึ่งว่าบริษัทเหล่านี้มักตั้งอยู่ที่นครซานฟรานซิสโก และอาศัย Big Data ในการให้บริการข้อมูลและจัดทำรายงานแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

            แม้ในอนาคต เราจะมีบริษัท PropTech มากขึ้น แต่พึงสังวรว่าบริษัทเหล่านี้อาจไม่ยั่งยืน  แม้ PropTech ที่เป็นสตาร์ทอัพจะนำหน้าด้านนวัตกรรม และมักเป็นบริษัทที่ไม่ใหญ่นัก มีความคล่องตัว รวดเร็ว และไม่ทำงานเชื่องช้าแบบระบบราชการ แต่บริษัทเหล่านี้ก็มักตั้งเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ระยะสั้น มีผลการศึกษาจาก Harvard Business Review ว่าตั้งแต่ปี 2543 ปรากฏว่า 52% ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 ล้มละลาย ถูกซื้อกิจการ หรือปิดกิจการเนื่องจากความชะงักงันของระบบดิจิทัลเอง

            การที่เราจะลงทุนในบริษัท PropTech อาจเป็น สินค้าแฟชั่น ที่พึงระวัง

 

 

อ้างอิง

8 Top PropTech Companies in 2022: Overview. https://ascendixtech.com/proptech-companies-startups-overview (27 เมษายน 2565)

The Ugly Truth About Innovation in Large Real Estate Corporations! https://www.proptechlab.be/the-ugly-truth-about-innovation-in-large-real-estate-corporations (12 พฤษภาคม 2565)

 

อ่าน 928 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved