มาดูกันว่ามาเลเซียมีนโยบายให้ต่างชาติซื้อบ้าน-ที่ดินอย่างไร จะได้เป็นแบบอย่างและบทเรียนสำหรับประเทศไทย จะได้ออกนโยบายแบบไม่ขายชาติ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ได้เดินทางไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และพบว่ามาเลเซียมีนโยบายอันชาญฉลาดเกี่ยวกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของคนต่างชาติ ซึ่งน่าจะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับประเทศไทย ทั้งนี้มีนโยบายหลักๆ ดังนี้:
1. ต่างชาติมาซื้อบ้านและห้องชุดในมาเลเซียได้ แต่ต้องมีราคาประมาณ 8-16 ล้านบาทขึ้นไป (1-2 ล้านริงกิต) เพื่อว่าจะได้ไม่มาซื้อบ้านในราคาถูก ทำให้บ้านขึ้นราคา อันจะส่งผลให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยในประเทศเดือดร้อนได้ ยิ่งกว่านั้นอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างบนที่ดินสำหรับชาวมาเลย์ซึ่งเป็นของคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะ ไม่ให้ต่างชาติซื้อ แสดงว่าเขาให้ต่างชาติซื้อทรัพย์สินที่จำกัด เช่นในโครงการบ้านจัดสรรทั่วไป ไม่ใช่บ้านจัดสรรของชาวมาเลย์ ไม่ใช่ให้ซื้อดะได้ทั่วไป
2. ต้องเสียค่าโอนประมาณ 3-4% ส่วนที่ประเทศไทยภาษีนี้ผู้ขายเป็นคนออก แต่ที่มาเลเซียผู้ซื้อชาวต่างชาติเป็นผู้ออก
3. ในแต่ละปี การถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติต้องเสียภาษี 4% ของค่าเช่าสมมติ เช่น รัฐบาลจะตีค่าเช่าสมมติรายปีประมาณ 5% ของมูลค่าตลาด เช่น ห้องชุดราคา 10 ล้านบาท สมควรเช่าได้ที่ 500,000 บาท แล้วรัฐบาลท้องถิ่นก็จะเก็บภาษี 4% ของค่าเช่า คือประมาณ 0.2% ของมูลค่าบ้านตามราคาตลาดโดยประมาณ
4. เมื่อชาวต่างชาติต้องการขายต่อใน 5 ปีแรก และชาวต่างชาติต้องเสียภาษีกำไรในอัตรา 30% ของกำไร แต่ถ้าขายในปีที่ 6 นั้น 10% ของกำไรจะต้องนำมาเสียภาษี
5. กรณีต่างชาติจะซื้อที่ดิน ต้องได้รับการพิจารณาเป็นรายๆ ไป ไม่ใช่ว่าจะซื้อที่ไหนก็ได้ หรือสามารถซื้อได้เลย และในแต่ละปี เขาคงอนุญาตให้ซื้อได้ไม่มากนักอยู่แล้ว
ดังนั้นก่อนที่จะคิด “ขายชาติ” โปรดศึกษาแบบอย่างของมาเลเซียก่อน
มาเลเซียมีนโยบายให้ต่างชาติซื้อบ้าน-ที่ดินอย่างไร https://fb.watch/ez0_J098tC/