มีโรงแรมแห่งหนึ่งชื่อเดอะพลาซ่าติดกับสวนเซ็นทรัลปาร์คบนเกาะแมนฮัตตันในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) มาเล่าให้ฟังถึงประวัติศาสตร์เศรษฐกิจที่น่าสนใจคือ Plaza Accord
ใน Wikipedia (https://bit.ly/2VAkWjv)
ข้อตกลงพลาซา (อังกฤษ: Plaza Accord) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ ปฏิญญาระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐ (อังกฤษ: Announcement of the Ministers of Finance and Central Bank Governors of France, Germany, Japan, the United Kingdom, and the United States)[1][2][3] เป็นข้อตกลงระหว่าง 5 ประเทศอุตสาหกรรมหลัก อันได้แก่ ฝรั่งเศส, เยอรมนีตะวันตก, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐ เพื่อบังคับให้ญี่ปุ่นและเยอรมนีเพิ่มค่าเงินของตัวเองเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลทั้งห้าประเทศได้ลงนามข้อตกลงนี้ในวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1985 ที่โรงแรมพลาซา ในนครนิวยอร์ก
โรงแรมพลาซาในนครนิวยอร์ก
ข้อตกลงครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่เยอรมนีตะวันตกและญี่ปุ่นได้ดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกาอย่างมหาศาล สหรัฐประสบภาวะขาดดุลการค้าถึงร้อยละ 3.5 ของมูลค่าเศรษฐกิจประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากสินค้าอเมริกาถูกประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆชิงส่วนแบ่งในตลาดโลกเป็นจำนวนมาก รัฐบาลของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน จึงวางแผนที่จะลดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลงเพื่อให้สินค้าของสหรัฐในสายตาของชาวโลกมีราคาถูกลง การลงนามข้อตกลงนี้ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1987 มีการทำข้อตกลงลูฟวร์เพื่อยับยั้งการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอ่อนค่าลงกว่าร้อยละ 51 เมื่อเทียบกับเงินเยนนับตั้งแต่ข้อตกลงพลาซาบังคับใช้[4]
ข้อตกลงครั้งนี้ญี่ปุ่นและเยอรมนีสามารถซื้อหาสินค้าต่างประเทศได้ในราคาถูกลงเกือบเท่าตัว แต่ในทางตรงข้าม สินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่นในสายตาของชาวโลกกลับมีราคาแพงขึ้นเท่าตัวด้วยเช่นกัน ในระยะแรกดูเหมือนสินค้าญี่ปุ่นจะยังคงขายได้แม้ว่าจะมีราคาแพงขึ้นมาก ทั้งนี้เนื่องจากคุณภาพสินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่นมีความโดดเด่นจนไม่อาจหาสินค้าจากที่อื่นมาทดแทน แต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีการขยายตัวในอัตราที่ลดลงในระยะยาว[5]
เมื่อภาคการผลิตในญี่ปุ่นทำผลกำไรลดต่ำลง จึงเกิดการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่าและขนส่งได้สะดวก ซึ่งก็คือกลุ่มอาเซียน4 (อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และไทย)[5] หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นต้องปลดคนงานราวหนึ่งในสาม มีการกู้ยืมเงินเพื่อการเก็งกําไรในตลาดหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น ทําให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจนเกิดเป็นภาวะฟองสบู่[5] และสุดท้ายฟองสบู่ก็แตกจนเศรษฐกิจญี่ปุ่นซบเซาติดต่อกันถึงสองทศวรรษตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 – 2010 ซึ่งเรียกยุคนี้ว่า "สองทศวรรษที่หายไป" (The Lost 2 Decades)
The Plaza โรงแรมในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก https://fb.watch/fy776R61zh/
The Plaza โรงแรมในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก  https://youtu.be/TGKtrCHMISUิ
The Plaza โรงแรมในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก https://vt.tiktok.com/ZSRm9tU88/