ถึงกรรมาธิการ: ขอให้ยกเลิกประกาศการขายชาติของ พลเอกประยุทธ์
  AREA แถลง ฉบับที่ 693/2565: วันพุธที่ 21 กันยายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            AREA แถลงฉบับนี้นำเสนอความคิดเห็นส่วนตัวของ ดร.โสภณ พรโชคชัย และได้ส่งถึงคณะกรรมาธิการวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ร่วมกันรณรงค์ยกเลิกประกาศฉบับนี้   

 

5/15 ถ.นนทรี ยานนาวา กทม.10120

 

19    กันยายน    2565

เรื่อง      ขอให้ยกเลิกประกาศการขายชาติของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

เรียน     นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา

           พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา
           นายสมชาย หาญหิรัญ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา
           พลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมาธิการ  คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา
           พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา
           นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา
           พลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ วุฒิสภา
           พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา
           พลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบ เรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา
           นางอภิรดี ตันตราภรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการพาณิชย์ และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา
           พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ วุฒิสภา

           นายสมศักดิ์ คุณเงิน ประธานกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร
           นายนิพันธ์ ศิริธร ประธานคณะกรรมาธิการ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร
           นายอภิชาติ ศิริสุนทร ประธานคณะกรรมาธิการ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร
           นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ประธานคณะกรรมาธิการ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร
           พลเอก สมชาย วิษณุวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร
           นายมานะ โลหะวณิชย์ ประธานคณะกรรมาธิการ  กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร
           นาย มนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
           นางกันตวรรณ ตันเถียร ประธานคณะกรรมาธิการ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร
           นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะกรรมาธิการ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการกฏหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร

อ้างถึง   ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 6/2565 เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้นิติบุคคลต่างด้าวที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัย ลว.8 สิงหาคม 2565

                  เนื่องด้วยประกาศข้างต้นถือเป็นประกาศที่ขายชาติ ขายแผ่นดินไทย เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติและเป็นการทรยศชาติอย่างร้ายแรง กระผมจึงทำหนังสือนี้มาขอท่านในฐานะพรรคการเมืองที่มุ่งรับใช้ประชาชน โปรดร่วมรณรงค์ยกเลิกประกาศนี้ ด้วยเหตุผลดังนี้:

                  1. ประกาศฉบับนี้ไม่ได้ช่วยกระตุ้นการลงทุน เพราะที่ผ่านมาก็มีการลงทุนจากต่างประเทศผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นอันมากอยู่แล้ว (“บีโอไอ” เผยยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมปี 4 ทะลุ 6.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 59%: https://cutt.ly/3Ckjv9T) ไม่มีความจำเป็นต้องกระตุ้นด้วยวิธีนี้

                  2. การให้ต่างชาติมาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ไม่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ รายได้ประชาชาติต่อปีที่เกิดจาการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์น้อยมากเพียง 1.5% (https://bit.ly/3OWTE0O) รัฐบาลอย่าได้เชื่อพวก “ขายชาติ” ที่อ้างข้อมูลเท็จ แรงงานมีฝีมือของคนต่างด้าวลดลงตามลำดับ ณ เดือนธันวาคม 2564 มีเพียง 137,710 ราย รัฐบาลจะหาคนต่างชาติมาอยู่ในไทย 1 ล้านคนใน 5 ปีเป็นเรื่องเท็จ แม้แต่สหรัฐอเมริกา ยังดึงคนเข้าประเทศมาซื้อบ้านได้แค่ 100,700 หลังในปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าตลอดช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา (ปี 2563-2564) จำนวนผู้ซื้อห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่เป็นชาวต่างชาติลดลงตามลำดับ  แม้ในช่วงปี 2562 ที่มีต่างชาติมาซื้อห้องชุดมากมายก็ถือว่าซื้อเพียง 15% ของมูลค่าเท่านั้น (https://bit.ly/3uwuQpM)

                  3. ในการลงทุนอุตสาหกรรม ปัจจัยการผลิตหลักก็คือเครื่องจักร หรืออาคาร ถ้าไทยจะส่งเสริมการลงทุนก็อาจให้ต่างชาติใช้ที่ดินโดยไม่คิดมูลค่า (แต่ต้องเสียค่าดูแลและค่าสาธารณูปโภค) ไม่จำเป็นต้องให้มาซื้อที่ดิน

                  4. การที่ต่างชาตินำเงินมาลงทุนเพียง 50 ล้านบาทก็สามารถซื้อที่ดินเพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานได้ถึง 5 ไร่นั้น มูลค่าที่ดินน่าจะสูงกว่าเงินลงทุนเสียอีก นี่เป็นการออกมาตรการให้ต่างชาติมาฮุบที่ดินไทยมากกว่ามาลงทุนจริง วิญูญูชนย่อมมองออก แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกมาตรการหละหลวมเช่นนี้น่าจะเป็นการจงใจขายชาติ

                  5. ถ้าประกาศมาตรการให้ต่างชาติมาแย่งซื้อและฮุบที่ดินไทยเช่นนี้ กิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนอยู่แล้วนับหมื่นๆ แห่ง ก็อาจเรียกร้องสิทธินี้บ้าง ซึ่งจะยิ่งทำให้ต่างชาติมากว้านซื้อที่ดินเก็งกำไรกันมากมาย

                  6. เมื่อเกิดอุปสงค์จากการเก็งกำไรที่ดินของต่างชาติกันมหาศาลจะทำให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น จะสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ยังไม่มีบ้านของตนเอง ต่อไปคนไทยอาจต้องเช่าที่ดินของต่างชาติในไทย

                  7. ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องให้กิจการนั้นๆ ซื้อที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยแก่ผู้บริหารหรือผู้ชำนาญการต่างชาติถึง 10 ไร่ ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติต่างอาศัยอยู่ในห้องชุด หรืออยู่ในเมืองเท่านั้น การประกาศเช่นนี้เป็นการส่งเสริมให้ต่างชาติมากว้านซื้อที่ดินเก็งกำไรโดยตรง

                  8. ยิ่งกรณีให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้อีก 20 ไร่ เพื่อเป็นที่พักอาศัยของคนงาน ยิ่งเป็นสิ่งที่ขาดเหตุผลยิ่ง ไม่มีความจำเป็นในการจัดหาที่อยู่อาศัยแก่คนงานไทยหรือต่างด้าวเลย  หรือประกาศนี้มุ่งแผ้วทางให้มีการส้องสุมชาวต่างด้าวใหม่ๆ เข้ามาในประเทศไทย เป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

                  9. ยิ่งกว่านั้นที่ดินที่ตั้งสำนักงาน และที่อยู่อาศัยสำหรับผู้บริหารและคนงานอาจอยู่ต่างที่กันก็ได้ ต่างชาติอาจแสร้งมาทำกิจการในเมือง แต่ซื้อที่ดินให้ผู้บริหารอยู่ตามชายทะเลหรือตามนาขั้นบันไดหรือที่ไหนก็ตาม

                  10. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนไม่ใช่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง อาจอนุมัติกิจการบังหน้าที่เป็นภัยร้ายต่อชาติได้

                  11. ที่ว่ากิจการนั้นๆ ต้องจำหน่ายหรือโอนที่ดินภายใน 1 ปีเมื่อหมดสภาพการเป็นผู้ได้รับการส่งเสริม แต่ไม่มีรายละเอียดว่าจะขายหรือโอนให้ใครได้บ้าง และการที่กิจการนั้นๆ ได้ครอบครองที่ดิน 10-20 ปีในช่วงส่งเสริมการลงทุน ก็ทำให้ราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ต่างชาติได้ประโยชน์จากการเก็งกำไรนี้

                  12. ประกาศฉบับนี้คลุมเครือ ไม่ได้ระบุประเภทกิจการที่จะได้รับการส่งเสริม และไม่ได้ระบุระยะห่างจากสถานประกอบการให้ชัดเจนทั้งที่สามารถทำให้กระจ่างในคราวเดียว จึงถือเป็นประกาศที่ฉ้อฉล อาจเป็นภัยร้ายต่อชาติอย่างร้ายแรง

                  13. ประกาศฉบับนี้ประกาศ ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2565 แต่ให้มีผลบังคับย้อนหลังตั้งแต่ 13 มิถุนายน 2565 กรณีนี้ถือเป็นเรื่องฉ้อฉลหรือไม่ และแทบไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้ทราบข่าวประกาศนี้เลย จนเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 ฐานเศรษฐกิจจึงได้เสนอข่าวนี้ (https://cutt.ly/ICkkIRA)

                  14. ที่ผ่านมาการรักษาความมั่นคงของไทยหละหลวม ขาดประสิทธิภาพทั้งตามแนวชายแดน ทั้งการสวมบัตรประชาชนคนไทย ทั้งการมาส้องสุมกำลังของเหล่าผู้ก่อการร้าย  ดังนั้นการยิ่งให้ต่างชาติมาซื้อที่ดินโดยอ้างการส่งเสริมการลงทุนจึงเป็นการขายชาติชัดเจน

                  15. ในต่างประเทศทั่วโลก ไม่เคยมีชาติใดประกาศให้ต่างชาติมาซื้อที่ดินอย่างหละหลวมเช่นนี้ โดยไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำในการซื้อ ไม่มีการเสียภาษีซื้อ (แทบ) ไม่มีการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีกำไรจากการขาย ภาษีมรดก ฯลฯ  นี่จึงเป็นประกาศที่จงใจขายชาติอย่างแน่นอน

 

                  ถ้ารัฐบาลจะให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย ต้องมีการกำหนดเช่นนานาอารยประเทศ ดังนี้:

                  1. ควรให้ผู้ซื้อเป็นผู้ที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเกิน 1 ปีแล้ว ไม่ใช่ให้ใครก็ได้มาซื้อ

                  2. ควรกำหนดราคาบ้านขั้นต่ำไว้ เพื่อไม่ให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้นจากการแย่งซื้อบ้านจากประชาชนไทยเอง เช่น ซื้อได้ในราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปเท่านั้น และอาจกำหนดให้ต่างชาติซื้อได้แต่บ้านมือ 1 ไม่รวมบ้านมือสอง

                  3. ควรกำหนดให้มีการเสียภาษีซื้อประมาณ 10-15% ของราคาขายเพื่อนำเงินเหล่านี้มาใช้เพื่อการพัฒนาประเทศ

                  4. ควรให้ต่างชาติเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 1.5% ของราคาตลาดในแต่ละปี เพื่อนำเงินมาพัฒนาท้องถิ่น (อันที่จริงคนไทยก็ควรเสียด้วย แต่ปรากฏว่ามีข้อยกเว้น) รวมทั้งให้มีการเสียภาษีมรดกที่เป็นสากลกว่านี้ (ปัจจุบันภาษีมรดกเอื้อให้คนรวยๆ แทบไม่ต้องเสียภาษี) และภาษีกำไรจากการขายที่ควรเก็บตามราคาตลาดจริงๆ

                  โดยสามัญสำนึกแล้ว วิญญูชนย่อมตระหนักได้ว่า การประกาศที่หละหลวมเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่การประมาทเลินเล่อร้ายแรงที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ก็เป็นการจงใจขายชาติอย่างแน่นอน กระผมจึงใคร่ขอให้ท่านหัวหน้าพรรคโปรดพิจารณาช่วยรณรงค์ให้ยกเลิกประกาศขายชาตินี้โดยรีบด่วน และให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลว่าได้มีการขายชาติตามประกาศนี้แก่ใครไปบ้างหรือไม่ เพื่อประชาชนและส่วนราชการต่างๆ จะได้เฝ้าระวังกิจการต่างชาติที่อาจมาทำร้ายประเทศไทยของเราได้

 

                     จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

 

ขอแสดงความนับถือ

ดร.โสภณ พรโชคชัย

sopon@thaiappraisal.org

อ่าน 1,004 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved