ตลาดอสังหาฯ อยุธยาเป็นอย่างไร
  AREA แถลง ฉบับที่ 721/2565: วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

           พระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่ต่อเนื่องจากเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นักวิจัยจากศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้ไปสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์อยุธยา ข้อมูลยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ แต่มีข้อสังเกตที่น่าสนใจล่าสุด

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าคณะนักวิจัยของศูนย์ฯ ได้ไปสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและพบว่าตลาดยังคงขายได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร

จึงมีผู้ประกอบการอสังหาฯ ในอยุธยา นอกจากมีนักลงทุนในพื้นที่แล้ว ยังมีดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่จากกรุงเทพฯ เข้าไปทำตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ พฤกษา เรียลเอสเตท, แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์,วังทองกรุ๊ป ศุภาลัย

            การพัฒนาที่อยู่อาศัยเน้นพัฒนาโครงการแนวราบ เนื่องจากภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ในพื้นที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีความต้องการโดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ ราคาไม่เกิน 3.5 ล้านบาท เพราะภายในจังหวัดเป็นแหล่งงานหลายแห่งขนาดใหญ่ อาทิเช่น นิคมอุสาหกรรมบางปะอิน อยุธยา และนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็น ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ล้านเป็นหลัก รองลงมาจะเป็นบ้านเดียว 2 ชั้น

            จากาการสังเกตอาจเป็นเพราะมีประชากรย้ายถิ่นฐานเข้ามาพร้อมกับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรม และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ได้แก่ โครงการทางพิเศษ สายอุดรรัถยา-พระนครศรีอยุธยา เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งสินค้าจากกรุงเทพฯ ไปอยุธยา และจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ในกรณีเกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติและเหตุฉุกเฉิน  การลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง อยุธยา-อีอีซี เป็นเส้นทางส่วนต่อขยายจากโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-ระยอง เพื่อใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ประเมินว่าความต้องการที่อยู่อาศัยของอยุธยายังคงมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจึงทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างๆจากกรุงเทพฯ เข้าไปลงทุนในพื้นกันมากขึ้น

            จะสังเกตได้ว่าผู้ประกอบการรายใหญ่มีการพัฒนานวัตกรรม มุ่งเน้นการออกแบบบ้านไปแนวทางการประหยัดพลังงาน เช่น มีช่องระบายอากาศ ทำให้บ้านไม่ร้อน มีการนำแผงโซล่าเซลล์ เข้ามาเพิ่มในตัวบ้านช่วยให้ช่วยประหยัดไฟในช่วงกลางวัน รวมถึงเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ เพื่อเพิ่มจุดขายภายในโครงการและภายในบ้านของโครงการ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยก็พัฒนาตามไปด้วย จึงส่งผลดีกับ ผู้บริโภคที่ได้ทั้ง คุณภาพบ้านที่ดีและประหยัดพลังงานไปพร้อมกัน

            ดร.โสภณจึงฟันธงว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอยุธยายัง “ไปต่อ” ได้ดี

 

ที่มา: https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2017/03/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2.png

อ่าน 1,480 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved