จากการประมวลผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลถึงสิ้นไตรมาสที่ 3/2565 มีหน่วยขายเปิดใหม่มากกว่าปี 2564 ถึง 1 เท่าตัว คาดทั้งปีเปิดตัวนับแสนหน่วย มูลค่ากระฉูดถึง 442,835 ล้านบาท ระวังจะล้นตลาดในอนาคตอันใกล้

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยว่าศูนย์ข้อมูลได้สำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดใหม่ พบว่าเฉพาะใน 9 เดือนแรกของปี 2565 มีเปิดใหม่ถึง 299 โครงการ รวม 77,449 หน่วย และมีมูลค่ารวม 332,126 ล้านบาท ทำให้ราคาเฉลี่ยต่อหน่วยเป็นเงิน 4.288 ล้านบาท

            เมื่อเทียบกับปี 2563 ในห้วงเวลา 9 เดือนแรกเช่นกัน ปรากฏว่าในปี 2563 เปิดตัว 198 โครงการ รวม 37,325 หน่วย รวมมูลค่า 190,316 และมีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยอยู่ที่ 5.099 ล้านบาท จะสังเกตได้ว่า

            1. จำนวนโครงการในห้วงเวลาเดียวกัน 9 เดือน ปี 2565 เปิดมากกว่าถึง 51%

            2. จำนวนหน่วยเปิดใหม่ในห้วงเวลาเดียวกัน เปิดเพิ่มนับเท่าตัวถึง 107% (จาก 37,325 หน่วย เป็น 77,449 หน่วย)

            3. มูลค่าการพัฒนาโครงการโดยรวมใน 9 เดือนแรกนี้เพิ่มขึ้นถึง 75% เพราะจำนวนหน่วยเปิดใหม่เพิ่มขึ้นมากนั่นเอง

            4. อย่างไรก็ตามราคาต่อหน่วยในปี 2565 ยังน้อยกว่าปีที่แล้วถึง -16% ทั้งนี้เพราะในปี 2564 มีโครงการ The Forestias ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมกันสูงถึง 45,000 ล้านบาทโดยประมาณ และราคาต่อหน่วยเกินกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป จึงทำให้ราคาเฉลี่ยในปี 2564 ค่อนข้างสูง แต่จำนวนหน่วยน้อย
            ดังนั้น ดร.โสภณ จึงประมาณการว่าในปี 2565 ทั้งปี (รวมถึงไตรมาสที่ 4 ด้วย) จะมีโครงการเปิดใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลถึง 399 โครงการ รวมจำนวนหน่วยถึง 103,265 หน่วย และมีมูลค่าโครงการสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 442,835 ล้านบาท สูงเกือบเท่ามูลค่าโครงการในปี 2562 (ก่อนโควิด-19) ที่มีมูลค่ารวม 476,991 ล้านบาท

            ดร.โสภณ ยังประมาณการต่อไปอีกว่าหากประมาณการในขอบข่ายทั่วประเทศ จะมีที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ (รวมเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว) จำนวน 718 โครงการ รวม 180,714 หน่วย และมีมูลค่าโครงการเปิดใหม่ราว 730,678 ล้านบาท โดยแต่ละหน่วยมีมูลค่าประมาณ 4.043 ล้านบาท ถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติที่ประมาณการล่าสุดที่ 17.635 ล้านล้านบาท ก็แสดงว่าผลิตภาพของภาคที่อยู่อาศัยไทยเท่ากับ 4.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ

            การที่มีโครงการเปิดใหม่มากมายเช่นนี้ ในแง่หนึ่งก็แสดงถึงแง่ดีที่ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเริ่มฟื้นตัวหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในอีกแง่หนึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้อาจก่อให้เกิดภาวะล้นตลาดได้ในอนาคตอันใกล้ ศูนย์ข้อมูลฯ จะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมานำเสนอต่อไป