เมื่อเร็วๆ นี้ มีนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกันคนหนึ่งเดินทางมายังประเทศไทย ผมมีโอกาสคุยด้วย ได้ความรู้ที่น่าสนใจหลายประการ จึงขออนุญาตถ่ายทอดเพื่อการเรียนรู้

            นายหน้าคนนี้มาร่วมประชุม FIABCI-Thai 2022 Prix d’Excellence Awards & Convention ณ กรุงเทพมหานคร ที่ผมในนามของนายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI-Thai) จัดขึ้น เขาเสียค่าลงทะเบียนมาเป็นเงิน 120 เหรียญสหรัฐ หรือ 4,500 บาท จองห้องพักเอง เดินทางมาเอง และยังอยู่ต่อจนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2565 โดยเสียเงินไปเข้าร่วมดูงานต่างจังหวัดอีก 4,500 บาท

            คนนี้เป็นคนผิวดำ อายุ 70 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรงดี เขาเกิดที่ประเทศเฮติ ซึ่งอยู่บริเวณทะเลแคริเบียน ย้ายไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 20 ปีก่อน สามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส (ที่เฮติพูดภาษาฝรั่งเศสกันด้วย) เขามีครอบครัวแล้ว แต่เป็นหม้าย ย้ายมาอยู่อเมริกากับลูกชาย เสียดายลูกชายของเขาเสียชีวิตไปเมื่อราวครึ่งปีก่อน แต่เขาก็ยังเข้มแข็งดี  เขาอาศัยอยู่ในเมืองไมอามี มลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

            เขาเคยทำงานในด้านอื่นๆ มาตลอดช่วง 50 ปีแรกของชีวิต แต่เมื่อ 20 ปีก่อนจึงเริ่มทำอาชีพนายหน้า และประสบความสำเร็จด้วยดี ผมสังเกตดูเขาเป็นคนอ่อนน้อม ยิ้มง่าย เข้ากับคนง่าย มีความใฝ่ใจศึกษาเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา นี่คงเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้ประสบความสำเร็จ  นายหน้าที่ดีต้องชอบงานที่ทำ ไม่ “ฟอร์มจัด” ไม่มากเรื่อง หรือมีอัตตามากเกินไป ไม่ติดเหลี่ยมตัวเองจนปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ไม่ได้

            เขายังเคยเป็นนายกสมาคมนายหน้าในพื้นที่ของเขา เป็นอุปนายกสมาคมนายหน้าข้ามชาติ และกรรมการอีกหลายสมาคม นึ่แสดงว่าเขาพยายามสร้างเครือข่ายหรือ Connection เพื่อหาโอกาสการเป็นนายหน้าข้ามชาติ ไม่ใช่ยึดติดเฉพาะในพื้นที่ของตนเองเท่านั้น การออกไปสู่สากล จึงแนวทางสำคัญหนึ่งในการเพิ่มพูนรายได้  เราผู้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนาที่ดิน นายหน้าหรือที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ใดๆ ก็ควร “ไปนอก”

            ถามถึงรายได้ของการเป็นนายหน้า เขาบอกว่า เขามีรายได้

            - เขาขายทรัพย์สินได้ปีละ 400 ล้านบาท จากทรัพย์ที่ขายบ้านหลังละประมาณ 12.5 ล้านบาท จำนวน 32 หลังต่อปี

            - เขาได้ค่านายหน้าเป็นกำไรสุทธิประมาณ 2.5% ต่อหลัง (จากค่านายหน้ารวม 5% ต่อหลัง) รวมเป็นเงินรายได้สุทธิ 10 ล้านบาท โดยเสียภาษีเงินได้ประมาณ 28%

            - ดังนั้นปีหนึ่งๆ จึงมีรายได้สุทธิ 7.2 ล้านบาท (72% ของ 10 ล้านบาท) หรือเป็นเงินเดือนละ 600,000 บาท

            - และหากคิดถึงค่าครองชีพของสหรัฐอเมริกาที่น่าจะสูงกว่าไทยถึง 4 เท่า ก็เท่ากับว่านายหน้าเช่นเขามีรายได้เดือนละ 150,000 บาทต่อเดือนในกรณีที่เป็นเงินไทยตามสภาวะเมืองไทยที่ค่าครองชีพอาจถูกกว่า

            อันที่จริงรายได้เท่านี้ก็ถือว่าไม่มากนัก หากเทียบกับนายหน้าเก่งๆ ในประเทศไทย แต่ก็ถือได้ว่าเขาสามารถอยู่ได้อย่างสบายๆ

            นายหน้าคนนี้ยังเป็นสมาชิกหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องเสียค่าสมาชิกไม่น้อย เช่น

            1. ค่าสมาชิกสมาคมนายหน้าท้องถิ่นที่มลรัฐฟลอริดา และสมาชิกสมาคมระดับชาติ เป็นเงิน 900 เหรียญสหรัฐต่อปี

            2. ค่าสมาชิกของการเป็น Certified International Property Specialists (CIPS) ปีละ 250 เหรียญสหรัฐ

            3. สมาชิกสมาคม Asian Real Estate Association of America (AREAA) ปีละ 99 เหรียญสหรัฐ

            4. สมาชิก Miami MLS (Multiple Listing Services) อีก 700  เหรียญสหรัฐ

            5. สมาชิกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI) 595 เหรียญ

            6. สมาชิกสมาคม Canadian Real Estate Association (CREA) ปีละ 99 เหรียญสหรัฐ

            7. สมาชิกสมาคมนายหน้าฝรั่งเศส ปีละ 140 เหรียญสหรัฐ

            สิริรวมแล้วปีหนึ่งๆ เสียค่าสมาชิกสารพัดอีก 2,783 เหรียญสหรัฐหรือราว 97,405 บาท ซึ่งถือว่าไม่น้อย แต่นักวิชาชีพไทยมักไม่ค่อยได้เสียค่าใช้จ่ายเหล่านี้นัก  ยิ่งกว่านั้นยังคงมีการซื้อประกันทางวิชาชีพอีกต่างหาก

            การเป็นนักวิชาชีพที่มีที่มาที่ไปที่ชัดเจน ย่อมสามารถประสบความสำเร็จได้