นักอสังหาฯ ต้อง Go Inter จริงๆ แล้ว
  AREA แถลง ฉบับที่ 027/2566: วันอังคารที่ 10 มกราคม 2566

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

            หลายคนบอกว่าจะไปสู่สากลหรือ (Go Inter) กันในแวดวงอสังหาริมทรัพย์โลก เราจะไปไหนไม่ได้เลย หากไม่ได้ไปร่วมงานเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นงานหลักของอสังหาริมทรัพย์โลกก็ว่าได้

            การ Go Inter มีความสำคัญสำหรับนักอสังหาริมทรัพย์ไทยในอนาคตอันใกล้นับแต่นี้เป็นต้นไป ไม่ใช่พูดกันแต่ปากเปล่า เราต้องไปลงทุนเมืองนอกกันบ้างแล้ว เพราะ

            1. ถือเป็นการกระจายความเสี่ยง การที่เราพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แต่ในประเทศไทยของเรานั้น อาจเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง เราจึงต้องกระจายกิจการไปต่างประเทศบ้าง จะสังเกตได้ว่าเศรษฐกิจเติบโตช้ากว่าอีกหลายๆ ประเทศในอาเซียน เรียกว่าอยู่ในระดับ “รองๆ บ๊วย” หลายประเทศมีโอกาสที่ควรไปลงทุน หาไม่จะถือเป็นการเสียโอกาสเป็นอย่างยิ่ง

            2. เป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ดร.โสภณเคยบอกผู้บริหารสูงสุดของบริษัทมหาชนหลายแห่งว่า ถ้าเราไปลงทุนในอินโดนีเซีย ในอนาคตไม่นานสาขาบริษัทพัฒนาที่ดินมหาชนของไทยในอินโดนีเซียอาจจะใหญ่กว่าในไทยก็เป็นไปได้ เพราะขนาดตลาดเขาใหญ่กว่าเรามาก และนักพัฒนาที่ดินไทยก็มีศักยภาพสูงอีกด้วย อย่างไรก็ตามก็คงต้องเข้าไปพัฒนาอย่างถูกกฎหมาย ไม่ใช่แบบใช้ Nominee เช่นที่นักลงทุนจีน (เทา) มาทำกับประเทศไทย

            3. เป็นการสร้างแบรนด์ว่าเราเป็นนักพัฒนาที่ดินระดับอินเตอร์หรือ Go Inter แล้ว ไม่ใช่แค่หากินอยู่ภายในประเทศไทยของเราเท่านั้น เราต้องส่งออก Know How เพื่อให้โลกประจักษ์ว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยรวมทั้งการออกแบบการให้บริการวิชาชีพอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ด้อยไปกว่าชาติใดนั่นเอง

            ก่อนจะไปลงทุน เราต้องทำอะไรบางอย่างเช่น

            1. เราควรไปรู้จักและค้นหา “พันธมิตร” ของเราในต่างแดนโดยผ่านการไป “คบค้าสมาคม” กับบรรดาสมาคมอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละประเทศ เช่น ในแทบทุกประเทศในเอเชียต่างมีสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล หรือ FIABCI โดยในประเทศไทย ดร.โสภณ เป็นนายกสมาคม FIABCI-Thai (www.fiabci-thai.org) ที่พิเศษคือในไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย นักพัฒนาที่ดินรายใหญ่ที่สุดมักเป็นนายกสมาคมหรือกรรมการสมาคม FIABCI นี้ เราจึงควรทำความรู้จักกับสมาคมและสมาชิกสมาคมเหล่านี้ในแต่ละประเทศ  โดยก่อนอื่นนักพัฒนาที่ดิน นักวิชาชีพอสังหาริมทรัพย์ควรมาเป็นสมาชิก FIABCI-Thai เพื่อใช้เป็นหน้าต่างไปสู่สากล

            2. การไปร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติซึ่งจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ถือเป็นการทำ Roadshow อย่างหนึ่ง และเป็นโอกาสไป “เปิดหูเปิดตา” ดูโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นนวัตกรรมของโลกแห่งอนาคตด้วย

            3. การร่วมประชุมนานาชาติ ซึ่งมีทั้งงานของนักพัฒนาที่ดิน นายหน้า ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นักวางแผนพัฒนาเมือง ฯลฯ โดยถือเป็นการแสวงหาความรู้และ “พันธมิตรธุรกิจ” อีกด้วย

            งานประชุมสำคัญๆ ในปี 2566 ที่ ดร.โสภณ ขออนุญาตแนะนำได้แก่:

            14-17 มีนาคม: MIPIM 2023 (เป็นชื่อย่อภาษาฝรั่งเศส) จัดที่เมืองคานส์ (ที่เขาจัดประกวดภาพยนตร์) ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้จัดขึ้นทุกปี ถือเป็นงานแสดงอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีบูธและ Pavilion มากมาย เดินกัน 3-4 วันจึงจะทั่วก็ว่าได้ ปกติจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 40,000 คน แต่หลังโควิดนี้ คาดว่าจะมีมากกว่า 20,000 คน มีสินค้าแสดงในงานถึง 2,400 บูธ มีนิทรรศการพร้อมวิทยากรระดับโลกมากมาย มีงานประกาศรางวัลอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น งานนัดพบนักธุรกิจ เป็นต้น  ผู้สนใจไม่ใช่ว่าจะถือวิสาสะเดินเข้างานได้ แต่ต้องเสียค่าลงทะเบียน 1,999 ยูโรหรือราว 74,000 บาท สำหรับสมาชิกของ FIABCI-Thai สามารถเข้าฟรีได้ 3 ท่าน ดูรายละเอียดได้ที่ www.mipim.com

            5-9 มิถุนายน: 73rd FIABCI World Congress ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ของสมาคม FIABCI ทั่วโลก ซึ่งมีอยู่ 70 ประเทศ มีผู้เข้าร่วมนับพันคน โดยในปี 2566 จะจัดขึ้น ณ โรงแรม Nobu Eden Roc ณ นครไมอามี มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ค่าเข้าร่วมในเบื้องต้นเป็นเงิน 1,700 ดอลลาร์ หรือ 60,000 บาท โดยเป็นค่าเข้าสัมมนา 2 วัน ค่างานเลี้ยงต้อนรับ อาหารกลางวัน 2 วัน ดูงานอสังหาริมทรัพย์ งานเลี้ยงอาหารค่ำผู้ทรงเกียรติของ FIABCI (Medal Holders) ซึ่ง ดร.โสภณ เป็นผู้ถือ Medal Holder คนหนึ่งในไทย งานเลี้ยงอาหารค่ำงานมอบรางวัลอสังหาฯ ดีเด่น Prix d’Excellence Awards และงานเลี้ยงอำลา ดูรายละเอียดได้ที่ https://miamifiabcicongress.com

            10-13 กันยายน: CityScape โดยในปี 2566 นี้จะจัดขึ้น ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอารเบีย ทั้งที่ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา (ยกเว้นช่วงโควิด) จัดขึ้น ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเร็ตส์มาโดยตลอด  งานนี้ก็คล้ายกับ MIPIM แต่มีขนาดเล็กกว่าและก็เป็นที่นิยมไปร่วมงานเช่นกัน ปกติทั้ง MIPIM และ CityScape ยังมีงานย่อยระดับทวีปเอเชีย หรือเฉพาะในญี่ปุ่นอีกต่างหาก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cityscapeglobal.com

            5-6 ตุลาคม: FIABCI-Thai Prix d’Excellence Awards and Convention งานนี้แม้จัดในกรุงเทพมหานครโดยสมาคม FIABCI-Thai เอง แต่ถือเป็นงานใหญ่ที่นักพัฒนาที่ดินไทยควรเข้าร่วมเพราะจะมีบูธของสมาคม FIABCI จากหลายประเทศทั่วโลก (ราว 50-70 บูธ) มาแสดง มีสมาชิกจากนานาชาติที่เป็นนักพัฒนาที่ดิน นักวิชาชีพด้านอสังหาริมทรัพย์ นายหน้า นักลงทุน และยังมีวิทยากรที่รับเชิญมาบรรยายราว 20 รายใน 2 วันดังกล่าว นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้พบ “พันธมิตร” จากนานาประเทศมาในประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีนับร้อยๆ ท่าน รายละเอียดจะได้ประกาศอีกครั้งในเว็บ www.fiabci-thai.org

            4-8 ธันวาคม: 42nd Global Leadership Summit, 2023 โดยจะจัดขึ้น ณ นครบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี (ปี 2565 จัดที่นครเกาสิยง ไต้หวัน) คาดว่างานนี้จะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 800 คน โดยเป็นนักลงทุน นักพัฒนาที่ดิน สถาบันการเงิน กองทุนต่างๆ ตลอดจนนักวิชาชีพอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งหลาย จึงเป็นงานที่ควรไปเข้าร่วมเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าเป็นนักพัฒนาที่ดินที่ต้องหารหาผู้ร่วมทุน ก็อาจไปออกบูธแนะนำตัวได้อีกต่างหาก (สถานที่จัดงานและกำหนดการต่างๆ จะประกาศในเว็บของ FIABCI (www.fiabci.org) ต่อไป

            ยิ่งกว่านั้นสมาคม FIABCI ในแต่ละประเทศยังจัดการมอบรางวัลโครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น เช่น FIABCI-Thai Prix d’Excellence Awards ประเทศที่จัดประกวดรางวัลอยู่เป็นประจำได้แก่ ไทย ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เป็นต้น โดย FIABCI ในแต่ละประเทศก็จะเชิญผู้แทนของ FIABCI-Thai เข้าร่วมฟรีในงานกาลาดินเตอร์เป็นประจำ  บริษัทนักพัฒนาที่ดินจึงพึงมาเป็นสมาชิกของ FIABCI-Thai เพื่อรับทราบข่าวสารและไปเข้าร่วมงานต่อไป

            ไปร่วมเรียนรู้จากทั่วโลกว่าการให้ต่างชาติไปซื้อหรือลงทุนอสังหาริมทรัพย์อย่างถูกกฎหมาย ไม่ต้องฉ้อฉล ไม่ต้องใช้ Nominee นั้น ชาติอื่นเขาทำกันอย่างไร และเราจะลงทุนในต่างประเทศอย่างสง่างามได้อย่างไรบ้าง

อ่าน 731 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved