ราคาบ้านจะเป็นอย่างไรในอนาคต มีโอกาสที่บ้านจะราคาตกต่ำลงหรือไม่ คำตอบแรกที่ฟันธงก็คือ ราคาบ้านไม่ตกแน่นอน ยกเว้น. . .
          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้สำรวจตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศและทั่วอาเซียนมาอย่างต่อเนื่อง ในกรณีนี้ได้วิเคราะห์ราคาที่อยู่อาศัย (หรือบ้าน ซึ่งหมายถึงทั้งบ้านแนวราบและห้องชุดพักอาศัย) ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไว้ดังนี้:
          1. ที่อยู่อาศัยเปิดใหม่
          ราคาที่อยู่อาศัยที่เปิดขายใหม่ ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมาคือปี พ.ศ. 2554, 2555 และ 2556 ราคาอยู่ที่ 2.984, 2.937 และ 2.928 ล้านบาทตามลำดับ แสดงว่าราคาบ้านแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย แม้จะดูลดต่ำลงมาแต่ก็ไมมีนัยสำคัญอะไร การนี้ชี้ว่า ตลาดพยายามผลิตบ้านราคาปานกลางและราคาปานกลางค่อนข้างถูก (ไม่เกิน 3 ล้านบาท) ออกมามากเป็นพิเศษ เพราะบ้านประเภทนี้ มีผู้ซื้อกว้าง ตั้งแต่ผู้ซื้ออยู่อาศัยเองและนักเก็งกำไร และเป็นราคาที่ไม่สูงเกินกว่าที่จะสุ่มเสี่ยงเก็งกำไร
          ยิ่งกว่านั้นราคาค่าก่อสร้างอาคารก็แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปีล่าสุด 2555-2556 จึงทำให้ราคาบ้านแทบไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นการที่ผู้เกี่ยวข้องฝ่ายใดจะอ้างว่าค่าก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นจนต้องเพิ่มราคาขายจึงไม่เป็นความจริง
          2. ที่อยู่อาศัยที่กำลังขายอยู่ในท้องตลาด
          เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้สำรวจไว้ทุกรอบไตรมาส  และหากเทียบรายครึ่งปีจะพบความเปลี่ยนแปลงบางประการคือ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2556 - ธันวาคม 2556 นั้น มีโครงการที่ราคาเพิ่มขึ้น 25% ที่ราคาลดลง 7% แต่ส่วนใหญ่ 68% ราคายังคงเดิม แสดงว่าในโครงการจัดสรรต่าง ๆ มีการปรับราคาไม่มากนัก
          แต่กรณีนี้อาจมีความผิดเพี้ยนเล็กน้อย กล่าวคือ โครงการที่ยังเหลือขายในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมานั้น อาจเป็นโครงการปกติหรือบางโครงการขายยาก ในกรณีโครงการที่ขายดี อาจหมดไปก่อนแล้ว จึงไม่พบบันทึกการปรับราคาเพิ่มขึ้น ทั้งที่มีการปรับราคานั่นเอง แต่อย่างน้อยการปรับราคาเพิ่มขึ้นบ้างนี้ก็ยังแสดงให้เห็นว่าตลาดยังไม่ได้ตกต่ำลงแต่อย่างใด
          3. ที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จมานานและมีผู้เข้าอยู่อาศัยแล้ว
          จากการสำรวจโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ยังพบว่าโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จและมีผู้เข้าอยู่แล้วยังมีการปรับเพิ่มราคาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยกเว้นที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดราคาถูก เช่นไม่เกิน 0.5 ล้านบาท ห้องชุดเหล่านี้ค่อนข้างทรุดโทรม ทำให้ราคาแทบไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเลย 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจถือเป็นข้อยกเว้นที่ที่อยู่อาศัยประเภทนี้ขาดการบำรุงรักษาที่ดี
          จากผลการประเมินค่าทรัพย์สินอย่างต่อเนื่องให้กับสถาบันการเงินต่าง ๆ แทบทุกแห่ง ผลการประเมินค่าทรัพย์สินพบว่า ราคาที่อยู่อาศัยในโครงการต่าง ๆ ยังเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ในกรณีบ้านแนวราบ และหากเป็นกรณีห้องชุดพักอาศัย ราคายังเพิ่มขึ้น 5-15% โดยประมาณ ส่วนโครงการห้องชุดพักอาศัยริมรถไฟฟ้า ราคาเพิ่มขึ้น 6.3% และยังสามารถให้เช่าได้ ณ อัตราผลตอบแทนประมาณ 6.5%
          สำหรับพื้นที่ที่โครงการที่อยู่อาศัยมีราคาเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งถือว่าน่าสนใจที่จะพัฒนาในอนาคต เพราะคงมีความต้องการจึงทำให้ราคาเพิ่มขึ้นได้แก่

          ส่วนโครงการที่ราคาตกต่ำลง คือมีการปรับราคาลง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะขายไม่ดีเท่าที่ควรจึงต้องยอมลงราคา ดังนั้นจึงถือเป็นโครงการที่ไม่ควรพัฒนา ได้แก่:

          สำหรับโอกาสที่ราคาที่อยู่อาศัยจะตกต่ำลงคงไม่มี เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยค่อนข้างแข็งแกร่ง ระบบสถาบันการเงินค่อนข้างแข็งแรง ทั้งนี้ยกเว้นว่าจะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองจนเกิดการนองเลือด สงครามกลางเมือง หรือเศรษฐกิจโลกผันผวนครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเค้าลางดังกล่าวแต่อย่างใด