คาดว่าในปี พ.ศ.2557 โครงการอสังหาริมทรัพย์จะมีจำนวนลดลงจากปี พ.ศ.2556 ประมาณ 30% ในแง่มูลค่าและ 25% ในแง่จำนวนหน่วย ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะพิษการเมืองในขณะนี้
          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้สำรวจตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศและทั่วอาเซียนมาอย่างต่อเนื่อง ในกรณีนี้ได้วิเคราะห์ราคาที่อยู่อาศัย (หรือบ้าน ซึ่งหมายถึงทั้งบ้านแนวราบและห้องชุดพักอาศัย) ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไว้ดังนี้:
          ในเดือนมกราคม อสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเปิดตัวลดลง 25 โครงการ จำนวนรวม 8,687 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 19,209 ล้านบาท โดยอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้ เป็นห้องชุดมากที่สุด 5,824 หน่วย (67.0%)  ทั้งนี้ทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ สำหรับอาคารชุดจะตั้งอยู่ในบริเวณถนนพระราม 3 ถนนรัชดาภิเษก ถนนอ่อนนุช ถนนเพชรเกษม และตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นต้น และทาวน์เฮ้าส์มีการเปิดอยู่ในเขตพื้นที่รอบนอก เช่น บริเวณย่าน หทัยราษฎร์บางปะกง ประชาอุทิศ พระราม 2 และเพชรเกษม เป็นต้น ส่วนอาคารชุดจะมีการพัฒนาในเขตกรุงเทพฯชั้นกลางและ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีม่วง เป็นสำคัญ 
          หากพิจารณามูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนมกราคม 2557 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 19,209 ล้านบาท โดยจะพบว่าสินค้าที่เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่มีราคาค่อนข้างถูกเป็นสำคัญ โดยมีระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทมากถึง (83%) รองลงมา คือที่ราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวนประมาณ (13%) ของหน่วยขายที่เปิดใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้ ถึงแม้จำนวนโครงการที่เปิดขายใหม่จะลดลง แต่จำนวนหน่วยขายและมูลค่าโครงการโดยรวม กลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะการเปิดตัวโครงการอาคารชุดเป็นจำนวนมากโดยมิได้นับหมาย
          แต่โครงการส่วนมากตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 17 โครงการ เช่น ถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนงามวงศ์วาน ถนนหทัยราษฎร์ ถนนอ่อนนุช ถนนประชาอุทิศ ถนนเพชรเกษม ถนนพระราม 2 ถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนภิเษก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 5 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้แหล่งงาน และชุมชนที่อยู่อาศัยในย่านนั้น เช่น ย่านบางปะกง ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เป็นต้น ซึ่งทั้งนี้ห่างไกลจากพื้นที่ชุมนุมทางการเมือง
          เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 4 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน)บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์  จำกัด (มหาชน) บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และมีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 3 บริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
          อนึ่งถ้าพิจารณาจากข้อมูลเฉพาะเดือนแรกนี้ อาจคาดการณ์ได้ว่า ในปี พ.ศ.2557 อาจมีโครงเกิดลดลงในแง่มูลค่าถึงประมาณ 30% ส่วนในแง่จำนวนหน่วยอาจลดลงราว 25% อย่างไรก็ตามหากมีสัญญาณที่ดี ก็อาจทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวต่อไป ทั้งนี้เพราะพิษการเมืองขณะนี้ ทำให้โครงการสาธารณูปโภคที่เป็นความหวังของการปรับเพิ่มของราคาอสังหาริมทรัพย์ ชลอการก่อสร้างออกไป ผู้ซื้อหรือผู้ลงทุนจึงอาจขาดความเชื่อมั่นในตลาด