เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) แถลงว่า AREA ได้รับการรับรอง ISO 9001-2015 มาเป็นเวลา 23 ปีมาแล้ว ถือเป็นที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกที่ได้รับการรับรอง
ISO 9001 มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ โปรดดูรายละเอียดที่ https://www.safesiri.com/iso-9001/
ISO 9001 เป็นมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ (QMS) ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรทุกขนาด ออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ การรับรองการจัดการคุณภาพ ISO 9001 สามารถช่วยคุณในการ :
ปรับปรุงการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ลดต้นทุน และเพิ่มผลกำไร
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ทำให้ลูกค้าพึงพอใจมากขึ้น
เพิ่มจำนวนลูกค้า
มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน
แสดงให้คุณเห็นถึงการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกับผู้มีส่วนได้เสีย และตลอดห่วงโซ่อุปทาน
ระบบมาตรฐาน ISO 9001:2015 คืออะไร
เรามาทำความรู้จักกันก่อน สำหรับมาตรฐาน ISO 9001 เป็นมาตรฐานที่เริ่มต้นสำหรับหน่วยงานควรจะต้องมีความรู้และความเข้าใจ การจัดรูปแบบองค์กรให้เหมาะสมตามหน้าที่และหน่วยงานต่าง ๆ การจัดหน้าที่และความรับผิดชอบของเราแต่ละคนว่าควรจะต้องดูแลในส่วนไหนกันบ้าง หรือถ้าพูดให้ง่ายให้เข้าใจคือการแบ่งกันรับผิดชอบที่ชัดเจนสำหรับแต่ละบุคคล อย่างเช่นเราอาจจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มแรกคือ ผู้ดูแลหรือหัวหน้างานในส่วนของการทำงาน และผู้ดูแลหรือหัวหน้างานในส่วนของอาคารและสถานที่ หลังจากนั้นก็เป็นการแยกย่อยไปตามตำแหน่งที่ได้รับความผิดชอบในส่วนต่าง ๆ ซึ่ง ระบบมาตรฐาน ISO 9001:2015 ตรงนี้จะช่วยจัดสรรงานให้แต่ละที่ สามารถทำงานได้สะดวกรวดเร็วขึ้นและมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น
สำหรับหน่วยงานทั่วไปแค่ถามว่ามีความจำเป็นจะต้องใช้เกี่ยวกับเรื่องราวของ ISO เข้ามาช่วยในหน่วยงานหรือไม่ จำเป็นอย่างแน่นอนสำหรับทุกหน่วยงานที่จะต้องมี ระบบมาตรฐาน ISO 9001:2015 เข้ามาช่วยบำรุงและพัฒนาหน่วยงานให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ถ้าเราไม่มีระบบระเบียบในการจัดการ ไม่มีการดูแลรูปแบบวิธีการการทำงานที่ชัดเจน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าการทำงานของเราไม่ได้แตกต่างจากการทำงานระบบครอบครัว ใครอยากจะทำอะไรก็ทำ ใครไม่อยากจะทำอะไรก็ไม่ต้องทำ ลักษณะการทำงานอย่างนี้ถือว่าไม่พัฒนาองค์กรสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามีการแยกย่อยอย่างชัดเจนมีการระบุหน้าที่การทำงานที่ถูกต้อง การพัฒนาการตรวจสอบหน่วยงานก็เป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่าง ง่ายต่อการปรับองค์กรหรือพัฒนาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ที่มา ISO 9001
ได้รับการพัฒนามาจาก ISO 9000 : 2008 มีการเพิ่มเติมข้อมูลให้มีความน่าเชื่อถือและมีการปรับปรุงมากยิ่งขึ้น หรือทำความเข้าใจอย่างง่ายคือมีการพัฒนาปรับปรุงองค์กรให้ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงาน เกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรและบุคลากรโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของเอกชนจากองค์กรเล็ก ๆ สู่องค์กรใหญ่ หรือจะเป็นหน่วยงานในภาครัฐที่ต้องทำงานเป็นรูปแบบแผน จะต้องมีการกำหนดแบบแผนที่ชัดเจนและมีเป้าหมายที่ชัดเจนเพิ่มยิ่งขึ้น ระบบมาตรฐาน ISO 9001:2015 จะช่วยให้การทำงานนั้นง่ายและจากในระบบของการทำงานได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะก่อนหน้านั้นจะมีความชัดเจนในระดับหนึ่งแต่ยังไม่สมบูรณ์ จึงมีการพัฒนาขึ้นมาอีกระดับกลายเป็น ระบบมาตรฐาน ISO 9001:2015
ซึ่งการพัฒนาของ ระบบมาตรฐาน ISO 9001:2015 จะเป็นการต่อยอดจากของเดิมมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเดิมเพียงเล็กน้อย ประโยชน์ที่จะได้รับในหน่วยงานคือความชัดเจนของการสั่งงานในการวางแผนได้มากยิ่งขึ้น อย่างเช่นการวางแผนในยุคก่อนอาจจะมีการวางแผนที่กว้างจนเกินไป ทำให้การทำงานนั้นอาจจะดูไม่ครอบคลุมและไม่รัดกุมกับการทำงาน ซึ่งผู้ที่ได้รับมอบหมายอาจจะยังทำไม่ตรงตามความต้องการ ระบบที่ทำการปรับปรุงใหม่ทั้งนี้มีความชัดเจนในการสั่งงานและการทำงานมากยิ่งขึ้น มุ่งสู่เป้าหมายโดยตรงและทำการลดขั้นตอนในส่วนที่ไม่จำเป็นลงไปด้วย
แนวคิดสำคัญของ ISO 9001 คือ การจัดวางระบบบริหารงาน เพื่อประกันคุณภาพซึ่งเป็นระบบที่ทำให้เชื่อมั่นได้ว่ากระบวนการต่าง ๆ ได้รับการควบคุม และสามารถตรวจสอบได้โดยผ่านเอกสารที่ระบุขั้นตอนและวิธีการทำงาน เพื่่อให้มั่นใจได้ว่าบุคลากรในองค์กรรู้หน้าที่ความรับผิดชอบและขั้นตอนต่าง ๆ ในการปฏิบัติงาน โดยต้องมีการฝึกอบรมให้ความรู้และทักษะในการปฏิบัติงานมีการจดบันทึกข้อมูล รวมทั้งการตรวจสอบการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามที่ระบุไว้ในเอกสารหรือไม่ และมีการแก้ไขข้อผิดพลาด รวมทั้งมีแนวทางในการป้องกันข้อผิดพลาดเดิม
หลักการของการบริหารงานคุณภาพ มี 8 ประการ
การให้ความสำคัญกับลูกค้า (Customer Focus)
ความเป็นผู้นำ (Leadership)
การมีส่วนร่วมของบุคลากร (Involvement of People)
การบริการเชิงกระบวนการ (Process Approach)
การบริหารที่เป็นระบบ (System Approach)
การรปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continual Improvement)
การตัดสินใจบนพื้นฐานความเป็นจริง (Factual Approach to Decision Making)
ความสัมพันธ์กับผู้ขายเพื่อประโยชน์ร่วมกัน (Mutually Beneficial Supplier Relationship)
ประโยชน์ของ ISO 9001 มีอะไรบ้าง
ทำให้คุณกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในตลาด
ทราบวิธีที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลา เงิน และทรัพยากรอื่น ๆ
กระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมในกระบวนการ และทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขยายโอกาสทางธุรกิจด้วยการแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตาม
การจัดการที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น จะช่วยให้คุณตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ผลการดำเนินงานที่ดีจะลดความผิดพลาดและเพิ่มผลกำไร
เอาชนะใจลูกค้าด้วยการบริการที่เหนือระดับ
ISO 9001 จึงเป็นระบบบริหารงานคุณภาพตามมาตรฐานสากล แนวคิดสำคัญของ ISO 9001 คือการจัดวางระบบบริหารงานเพื่อการประกันคุณภาพ ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้เชื่อมั่นได้ว่ากระบวนการต่างๆ ได้รับการควบคุมและสามารถตรวจสอบได้ โดยผ่านระบบที่ระบุขั้นตอนและวิธีการทำงาน เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรในองค์กรรู้หน้าที่ความรับผิดชอบและขั้นตอนต่างๆ ในการปฏิบัติงาน โดยต้องมีการฝึกอบรมให้ความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน มีการจดบันทึกข้อมูล รวมทั้งการตรวจสอบการปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามที่ระบุไว้ในระบบหรือไม่ และมีการแก้ไขข้อผิดพลาดรวมทั้งมีแนวทางในการป้องกันข้อผิดพลาดเดิม
ในปัจจุบันมาตรฐาน ISO 9001:2015 มีการเพิ่มข้อกำหนดในเรื่องการทำความเข้าใจกับองค์กรและบริบทองค์กร การทำความเข้าใจกับความต้องการและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อใช้สำหรับการดำเนินการกับความเสี่ยงและโอกาสรวมถึงข้อกำหนดอื่นๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานหนึ่งที่จะช่วยให้องค์กรสามารถมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ต่อไป