บริษัทใดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในส่วนภูมิภาคมากที่สุดในรอบ 28 ปี AREA มีคำตอบ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้จัดอันดับบริษัทพัฒนาที่ดินจากผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคสนามในขอบเขตทั่วประเทศที่เก็บมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2537 – ธันวาคม 2565 ถือเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในประทศไทย ที่เก็บข้อมูลมานานที่สุด รวมเวลา 28 ปี เพื่อให้ทราบว่า 10 บริษัทพัฒนาที่ดินที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูมิภาค ได้แก่บริษัทอะไรบ้าง
นอกเหนือจากในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว ยังมีจังหวัดภูมิภาคอีก 70 จังหวัด ผลการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า อันดับได้เปลี่ยนไปกล่าวคือ บมจ.ศุภาลัย เป็นบริษัทที่พัฒนาที่ดินในต่างจังหวัดมากที่สุด โดยพัฒนาแล้วถึง 145 โครงการ รวม 32,655 หน่วย รวมมูลค่า 103,652 ล้านบาท มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.174 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทนี้พัฒนาที่อยู่อาศัยไปถึงประมาณ 35-40 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อราว 5 ปีก่อน ปรากฏว่าบริษัทอันดับหนึ่งในจังหวัดภูมิภาคก็คือ บมจ.แสนสิริ แต่ในภายหลัง บมจ.ศุภาลัยได้บุกตลาดเป็นอันมาก จึงทำให้บริษัทนี้เป็นอันดับหนึ่ง สำหรับแชมป์ใหญ่อย่าง บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท อยู่อันดับที่ 3 มี 54 โครงการ 13,136 หน่วย รวมมูลค่า 33,155 หน่วย หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.524 ล้านาบาท ส่วน บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลล็อปเมนท์ มาอันดับที่ 4 แต่ราคาขายเฉลี่ยต่ำสุดคือ 1.542 ล้านบาทเท่านั้น บริษัทที่บุกตลาดภูมิภาคอย่างมากในช่วงหลังนี้ได้แก่ บมจ.ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งพัฒนาแล้ว 15 โครงการ รวมมูลค่า 13,230 ล้านบาท และคาดว่าจะบุกหนักอีกมากในอนาคต
จะสังเกตได้ว่า บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ ซึ่งทำโครงการในจังหวัดภูมิภาค เป็นบริษัทแรกๆ เมื่อราว 30-40 ปีก่อนนั้น แม้จะติดอันดับหนึ่งในสิบแต่ก็ไม่ได้ครองแชมป์ ทั้งนี้คงเป็นเพราะบริษัทดังกล่าวเน้นการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไปและเน้นบ้านเชิงคุณภาพราคาสูง และที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เมืองในจังหวัดภูมิภาคที่มีประชากรเกินล้านคน ไม่มีในประเทศไทย แม้ในหลายจังหวัดอาจมีประชากรเกินล้าน แต่ในเขตเมืองมีประชากรไม่เกินล้านคน ดังนั้นโอกาสการพัฒนาในจังหวัดภูมิภาคจึงค่อนข้างจำกัด
สิ่งที่น่าสังเกตประการหนึ่งก็คือ บมจ.เอ.พี. (ไทยแลนด์) ซึ่งติดอันดับที่ 2 ระดับทั่วประเทศ มีมูลค่าการพัฒนาพอๆ กับ บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท ที่เป็นอันดับหนึ่ง กลับติดเพียงอันดับที่ 10 เพราะบริษัทดังกล่าวเพิ่งบุกตลาดภูมิภาคเมื่อไม่กี่ปีมานี้ โดย บมจ.เอ.พี. (ไทยแลนด์) พัฒนาทั้งหมด 11 โครงการ 3,280 หน่วย รวมมูลค่า 7,928 ล้านบาท และขายในราคาเฉลี่ย 2.417 ล้านบาท นอกจากนั้น บมจ.ไอทาวน์โฮลดิ้ง (AA) กลับติดอันดับที่ 10 ในด้านจำนวนหน่วย แต่มูลค่าน้อยกว่าอันดับที่ 10 ทั้งนี้เพราะแต่บริษัทดังกล่าวมุ่งเน้นการพัฒนาเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เช่น ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และปราจีนบุรีเป็นสำคัญ
หากพิจารณาจากการสำรวจในปี 2566 ดร.โสภณกล่าวว่าบริษัทที่ออกไปพัฒนาในจังหวัดภูมิภาคอย่างเข้มแข็งชัดเจนที่สุดก็คือ บมจ.ศุภาลัย ซึ่งเป็นเจ้าตลาดในจังหวัดภูมิภาค และอีก 2 บริษัทที่มีเป้าการพัฒนาในจังหวัดภูมิภาคสูงๆ ได้แก่ บมจ.ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ และ บมจ.เอ.พี. (ไทยแลนด์) ส่วนบริษัทนอกตลาดประเภท “เจ้าถิ่น” ในแต่ละจังหวัดภูมิภาค จะมีเพียงน้อยรายที่จะสามารถแข่งขันกับบริษัทมหาชนได้ จึงทำให้หลายบริษัทอาจเลี่ยงกฎหมายจัดสรรเพื่อลดต้นทุนลง หรือทำโครงการขนาดเล็กๆ เท่านั้น