ราชการชอบกำหนดแนวเวนคืนกว้างเกินจริง ทำชาวบ้านตกใจ ส่งผลลบต่อราคาบ้านและที่ดิน คนซื้อไม่กล้าซื้อ คนรู้วงในฉวยโอกาสหรือไม่
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ได้ยกตัวอย่าง พระราชกฤษฎีกา กาหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่แขวงบางด้วน แขวงบางหว้า แขวงบางจาก แขวงคหูาสวรรค์แขวงปากคลองภาษีเจรญิ เขตภาษีเจริญแขวงบางขุนเทียน แขวงบางค้อ แขวงจอมทอง แขวงบางมด เขตจอมทอง แขวงท่าข้าม แขวงแสมดำ เขตบางขนุเทยีน แขวงบางมด แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ และแขวงบางปะกอก แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บรูณะ กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๖๖
ตามแผนที่หน้า 4 กำหนดแนวไว้กว้างมากกว่าความเป็นจริงมาก ส่งผลเสียร้ายแรง ทำชาวบ้านตกใจ ส่งผลลบต่อราคาบ้านและที่ดิน คนซื้อไม่กล้าซื้อ ส่วนคนรู้วงในที่รู้แนวจริงอาจฉวยโอกาสซื้อในราคาถูกหรือไม่
อันที่จริงหน่วยงานด้านการเวนคืนควรสำรวจให้ชัดเจนเสียก่อนว่าแปลงไหนจะถูกเวนคืนบ้าง และประกาศให้ประชาชนได้รู้ว่าล่วงหน้า ทางราชการควรศึกษาให้ดีก่อนประกาศ เจ้าของบ้านและที่ดินส่วนมากที่ไม่ถูกเวนคืนจะได้สบายใจและไม่เสียผลประโยชน์ไปด้วย
ที่ผ่านมาบางโครงการประกาศแนวเวนคืนว่าง 500 ถึง 1,000 เมตรตลอดแนว ทั้งที่จะก่อสร้างจริงเพียง 60 ถึง 100 เมตรเท่านั้น ทำให้ในระหว่างการเวนคืนซึ่งอาจกินเวลา 5 ถึง 10 ปี ประชาชนเจ้าของที่ดินและอาคารก็ได้รับผลลบเพราะคงไม่มีใครกล้ามาซื้อ และราคาก็คงตกต่ำลงไปได้
ในยุคสมัยใหม่นี้ หากรัฐบาลหรือหน่วยราชการใดในด้านการเวนคืนทำให้ราคาทรัพย์สินของประชาชนลดต่ำลงเช่นจากการกำหนดแนวเวนคืนที่กว้างเกินจริง รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรชดใช้ความเสียหายแก่ประชาชนจากความเดือดร้อนนี้ด้วย
ในกรณีการชดใช้ค่าเสียหาย เช่น หากราคาที่ดินเป็นเงิน 1 ล้านบาท ตลอด 10 ปีที่ยังไม่มีความชัดเจนในการเวนคืนราคาอาจหยุดนิ่งไป ในขณะที่ในสถานการณ์ปกติราคาที่ดินอาจเพิ่มขึ้นปีละ 3% ดังนั้นประชาชนเจ้าของที่ดินและทรัพย์สินที่เดือดร้อนควรได้รับการชดเชยเป็นเงิน 343,916 บาท หรือ 1.03 ยกกำลัง 10 แล้วลบด้วย 1 คูณด้วยราคาฐาน 1 ล้านบาท เป็นต้น ยิ่งถ้าหากราคาลดลงก็ยิ่งต้องชดใช้ค่าเสียหายมากขึ้นอีก
ยิ่งดว่านั้นในอนาคต หน่วยราชการและตัวข้าราชการผู้ที่ยังกำหนดแนวเวนคืนแบบตีขลุม-ส่งเดช ควรได้รับโทษหรือมีความผิดทางวินัยเช่นกันจะอาศัยความเป็นข้าราชการมาคุ้มครองตนเองไม่ได้ ยิ่งหากใครรู้ข้อมูลการเวนคืนวงในแล้วนำไปหาผลประโยชน์ เช่นไปดักซื้อ ไปช้อนซื้อในราคาถูก ก็ควรได้รับการลงโทษเช่นกัน
ส่วนราชการในยุคสมัยใหม่จึงควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมซึ่งก็หมายถึงประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศนั่นเอง ไม่ใช่ไปจากกิจกรรมทำบุญ บริจาค กวาดถนน ปลูกป่า ฯลฯ
โปรดดูรายละเอียดที่ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140A033N0000000003300.pdf